ในยุคสมัยนี้การดื่มกาแฟกลายเป็นอีกวัฒนธรรมที่ส่งผลมาก ๆ ในการดำเนินชีวิตของหลาย ๆ คน มีร้านผุดขึ้นมากมายหลากหลายร้าน กาแฟสารพัดชนิด ซึ่งสิ่งนั้นเองทำให้การเข้าถึงกาแฟถือว่าง่ายขึ้นอย่างมาก จนทำให้เรามีเครื่องชงกาแฟ ไว้ทำดื่มเองที่บ้านได้ง่ายมากขึ้นด้วย. วันนี้อยากพาทุกคนมาแนะนำให้รู้จักกับเครื่องชงกาแฟแนว Slow Bar หรือ แบบที่ไม่ใช้ไฟฟ้ากันครับ ซึ่งเครื่องลงประเภทนี้ก็มีหลากหลายแบรนด์ หลายรูปแบบแต่หลักการทำงานพื้นฐานนั้นเหมือน ๆ กันคือ การใช้แรงของเราบีบสกัดกาแฟออกมาเป็นช็อตกาแฟนั่นเอง. เครื่องชงตัวนี้ชื่อว่า Mischief Espresso ครับ โดยมีจุดเด่นต่างจากเครื่องชงแนว Slow Bar อื่น ๆ คือ ประหยัดแรงมากกว่าครับ เพราะเราไม่ต้องใช้แรงของตัวเองในการกดกาแฟลงไปเพียงแค่หมุน ๆ ก้านด้านบนเท่านั้น ก็จะทำให้เกิดแรงดันเพื่อจะสกัดกาแฟออกมาครับ ซึ่งขั้นตอนการทำก็ง่ายมาก ๆ ตามนี้เลยครับ.ใส่กาแฟลงไปใน Basket ของเครื่อง ซึ่งจะมีอุปกรณ์ป้องกันการหกหล่น ทำให้เทใส่ได้ง่าย ๆ เลยครับ ปกติแนะนำให้ใส่ที่ 18 - 20 กรัมครับ จากนั้นเขย่า ๆ เพื่อเกลี่ยให้กาแฟเท่า ๆ กัน.ใช้แทมเปอร์กดลงไปเพื่อให้กาแฟนั้นแน่น และหน้าเรียบสม่ำเสมอ.เสร็จแล้วหมุน Basket ใส่ไปด้านล่างของตัวเครื่องจนรู้สึกตึง ๆ มือ.เทน้ำร้อนใส่ด้านบนในรูของเครื่องจนล้นออกมานิดหน่อย.หมุนก้านขึ้นจนสุด แล้วค่อยหมุนลงตัวเครื่องจะค่อย ๆ มีแรงดัน โดยเราจะเริ่มรู้สึกตึง ๆ มือในการหมุน. ก็จะได้ช็อตกาแฟสวย ๆ ออกมาแบบนี้เลยครับ.การใช้งานถือว่าง่ายมาก ๆ ครับสำหรับเจ้าตัวนี้ มาดูข้อดี - ข้อเสียตามมุมมองของผมกันบ้างครับ. ข้อดี 1. ขั้นตอนในการเตรียมเพื่อที่จะได้กาแฟ 1 แก้วค่อนข้างน้อย ทำให้ใช้เปิดร้าน หรือ ทำดื่มเองที่บ้านได้สะดวกพอสมควร2. เครื่องมีแรงดันที่เสถียร ทำให้ช็อตกาแฟออกมาดีมาก ๆ แล้วสม่ำเสมอ สามารถคงรสชาติแบบที่ชอบไว้ได้ ซึ่งต่างจากเครื่อง Slow Bar ตัวอื่น ๆ ที่แรงดันค่อนข้างไม่สเถียรครับ.3. ราคาไม่แพง.4. ขนาดเล็ก อุปกรณ์ไม่เยอะ พกไปไหนมาไหนได้ค่อนข้างง่าย.5. สามารถอัพเกรดเพิ่มเติมเพื่อความสะดวก โดยใส่ก้านชงเพิ่มได้.ข้อเสีย 1. ขั้นตอนการทำความสะอาดหลังสกัดช็อตเสร็จค่อนข้างยุ่งยาก ถ้าไม่ถนัดอาจจะมีความเลอะเทอะได้.2. ถ้าไม่ถนัดช่วงเวลาที่หมุนอาจจะทำให้เครื่องโยกไปโยกมาได้.3. ความสูงจากฐานมาถึงตัวเครื่องน้อย ทำให้วางแก้ว พร้อม ๆ กับตาชั่งไม่ได้.นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวจากประสบการณ์การใช้งานเจ้า Mischief Espresso นะครับ ตัวนี้สนนราคาที่ 7 พันบาท ใครสนใจลองซื้อมาลองได้ครับไม่ผิดหวัง.ปล. สำหรับคนที่เคยลองตัวอื่น ๆ ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ บอดี้แน่นกว่า Rok, 350 Psi, Flair 58 ครับ กลิ่นกาแฟจะชัดมาก ๆ แต่เทสความเปรี้ยวจะไม่พุ่งใครที่ชอบสายฟรุ๊ตตี้ต้องซื้อของอัพเกรดใส่ด้ามชง 58 ครับ. เครดิตผู้เขียนถ่ายเองทั้งหมดหิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !