กินข้าวกับน้ำพริกซิจ๊ะ ถึงได้สะ ได้สวย บ้านน้องใช่ร่ำ ใช่รวย .... เพลงนี้ จำขึ้นใจตั้งแต่สมัยเด็ก สำหรับผู้เขียนขอยกนิ้วให้กับ "น้ำพริกหมูโคราช" ที่ติดใจชอบมาก ๆ และ เป็นของอร่อยที่หากินยากจริง ๆ ไม่ค่อยเจอขายตามท้องตลาดทั่วไป วันไหนเดินเจอก็ฟลุ้คมาก ร้านขายส่วนใหญ่จะเป็นน้ำพริกชนิดอื่น เช่น น้ำพริกปลาทู น้ำพริกกะปิ น้ำพริกแมงดา น้ำพริกปลาร้า ถ้าอยากกินอาจต้องเดินทางไปเมืองย่าโมโคราช จังหวัดนครราชสีมา กันเลยทีเดียว จุดเด่นเอกลักษณ์ คือ มีเนื้อหมูสับ จัดเต็มเครื่องปรุงเครื่องเทศรสเด็ดเข้มข้นเหมาะกับคนที่ชอบทานเนื้อหนัก ๆ ทำไมใคร ๆ ก็ติดใจในรสชาติของน้ำพริก !! นั่นคือ ความเผ็ด แซ่บ แถมสารพัดประโยชน์ของน้ำพริก ได้แก่ ช่วยขับเหงื่อ ช่วยเจริญอาหาร ลดคอเลสเตอรอล ความดันโลหิตสูง ระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคมะเร็ง อีกมากมายสรรพคุณเขาล่ะ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงหลากหลายสูตรตามท้องถิ่นแต่ละภาคนั้น ๆ จัดเป็นอาหารพื้นบ้านที่รับประทานได้ทุกวันทุกครอบครัว ไม่รู้เบื่อ เชื่อเลย ราคาแสนประหยัดเก็บไว้กินได้หลายมื้อ ถือชามข้าวสวยร้อน ๆ กับน้ำพริก ทานคู่ผักสด เช่น แตงกวา มะเขือเปราะ ถั่วพลู ถั่วฝักยาว หาซื้อได้ง่าย ส่วนผักต้มที่ลวกสุกแล้วก็มีขายหาซื้อได้ง่ายเหมือนกัน เช่น ผักบุ้ง กวางตุ้ง ชะอม ดอกแค มะระขี้นก ก็พอหาตามตลาดบางร้านมีขาย หรือ จะซื้อผักสดมาต้มเองที่บ้านก็ได้ ซึ่งผักจะมีความหวาน ฝาด เข้ากันได้ดี ยิ่งกินหลายคนยิ่งอร่อย กินทีไรเดินไปขอเบิ้ลข้าว 2 ชาม ด้วยความหิวมากอย่างแรง กระเทียม เครื่องเทศหลักของเมนูนี้ หอมแดง เครื่องเทศหลักของเมนูนี้เช่นกัน อยากทำกินเอง ทำไงดี !! นึกถึงตอนที่คุณแม่ปรุงอาหารผัดน้ำพริกในกระทะ กลิ่นฟุ้ง ๆ หอม ๆ ล่องลอยจากหลังบ้านถึงหน้าบ้านมาเตะจมูกสูตรของคุณแม่อร่อยเลิศมาก คราวนี้ผู้เขียนอยากลองทำด้วยฝีมือล้วน ๆ ก่อนอื่นจะต้องหาเครื่องปรุงที่มีติดประจำบ้านมาสำรวจกันเลย 1. เนื้อหมูสับ 2. พริกป่น 3. หอมแดง 4. กระเทียม 5. น้ำปลา 6. น้ำตาลทราย 7. ผงรสดี 8. ผงชูรส 9. น้ำมันพืช สไตล์ผู้เขียนวิถีคนรุ่นใหม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาแต่อยากทำกินเอง เมื่อครัวเตาเราว่างก็พร้อมไม่ต้องรออะไรละ ขอแนะนำวิธีทำที่สั้น ๆ ง่าย ๆ ได้ผลลัพธ์ อร่อยได้เหมือนกัน เริ่มขั้นตอนดังนี้ 1. ตั้งกระทะเปิดไฟอ่อน ๆ เทน้ำมันพืชเล็กน้อย พอร้อนหย่อนหอมแดง กระเทียม คนไปคนมา กลิ่นหอมล่องลอยฟุ้งไปทัวครัวหลังบ้าน 2. พอหอม กระเทียม เริ่มสุกได้ที่พริกป่นลงแล้วผัดต่อ ลองชิมระดับความเผ็ด แซ่บ จัดจ้านมากน้อยตามใจชอบตอนนี้ได้เลย 3. เมื่อเครื่องพริกคลุกเคล้าเข้ากันได้ที่แล้ว ใส่เนื้อหมูสับ ปริมาณตามใจ ผัดไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะสุก 4. พอเนื้อสุกแล้ว ปรุงเครื่อง ผงชูรส ผงรสดี น้ำปลา น้ำตาลทราย ตามรสที่ชอบ รอบนี้สามารถเพิ่มเติมพริกป่นได้อีกหากความเผ็ดหากความเผ็ดในระดับยังไม่สะใจพอ ขอแนะเคล็ดลับควรเติมน้ำเปล่าลงไปสักหน่อยเพื่อไม่ให้น้ำพริกหมูแห้งนั้นเกินไป ในที่สุดก็สำเร็จเสร็จแล้วตักใส่ชามพร้อมเสิร์ฟ โดยส่วนตัวผู้เขียนชอบรับประทานน้ำพริกคู่ไข่เจียว เคล็ดลับเสริมเพิ่มอรรถรส มาชวนสมาชิกในบ้านร่วมวงตั้งโต๊ะกันเลย "น้ำพริกหมูโคราช" ตำนานพื้นบ้านถิ่นอีสาน อาหารแสนอร่อยของเมืองไทย ไปตักข้าวสวยที่หุงใหม่ ๆ ร้อน ๆ หอม ๆ ใส่จานกันดีกว่า ความเผ็ดจัดระดับโหดจนต้องเป่าปากไปดื่มน้ำไป หากใครรับประทานไม่หมดสามารถเก็บไว้ได้อีกหลายมื้ออยู่ได้นานทั้งวัน หรือแช่ตู้เย็นก็เก็บไว้มาอุ่นได้อีก "ของดีที่ขอบอกต่อ" ไม่ลองไม่รู้ รับรองว่า คุณจะติดใจ ภาพประกอบ ปก โดยผู้เขียน ขอบคุณรูปภาพจาก unsplash.com รูปประกอบที่ 1 / รูปประกอบที่ 2 / รูปประกอบที่ 3 / รูปประกอบที่ 4 / รูปประกอบที่ 5/6/7/8/9/10/11/12 ภาพโดยผู้เขียน