12 ตัวอย่างเมนูแคลน้อย มีอะไรบ้าง ได้คุณค่าทางอาหาร และอร่อย มารู้กันเลย! เขียนโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล อาหารเป็นหนึ่งในสิ่งที่สะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนได้ชัดเจนที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่เน้นรสจัดจ้านตามท้องถิ่นอาหารที่ทำง่ายในชีวิตประจำวัน อาหารที่กินในงานมงคล หรืออาหารที่ต้องใช้ขั้นตอนพิถีพิถัน ต่างล้วนมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง แต่ในบรรดาประเภทอาหารทั้งหมดนั้น ยังมีอีกหนึ่งกลุ่มที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคืออาหารแคลน้อยค่ะ ซึ่งเป็นเมนูที่เน้นความเรียบง่าย และใช้วัตถุดิบพื้นฐานที่เราคุ้นเคยอยู่แล้ว ซึ่งอาหารประเภทนี้มักไม่ต้องอาศัยเทคนิคซับซ้อนเน้นความสดใหม่ของวัตถุดิบ และใช้วิธีปรุงที่เบา เช่น ต้ม ย่าง นึ่งหรือผัดน้ำเล็กน้อย จึงทำให้กินได้บ่อยโดยไม่รู้สึกเลี่ยนหรือหนักจนเกินไป ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้เรื่องนี้กันนะคะ โดยเมื่ออ่านจบแล้วคุณผู้อ่านจะได้เห็นภาพกว้างๆ ว่าอาหารแคลน้อยคือหนึ่งในรูปแบบอาหารที่สามารถพบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยพื้นบ้าน อาหารริมทาง หรือเมนูจานด่วนตามร้านทั่วไป เราจะเข้าใจว่าทำไมอาหารประเภทนี้ถึงถูกเลือกบ่อยในวันเร่งรีบ และมองเห็นว่าอาหารแคลน้อยไม่ใช่เรื่องของการควบคุมอะไร แต่เป็นอีกสไตล์การกินที่เบาสบาย สดใหม่ และช่วยให้มื้ออาหารในแต่ละวันเป็นเรื่องง่ายขึ้น ทั้งในด้านรสชาติและความสะดวก ซึ่งต่อไปนี้คือตัวอย่างของเมนูอาหารที่น่าสนใจค่ะ 1. แกงจืดเต้าหู้หมูสับผักกาดขาว แกงจืดเต้าหู้หมูสับผักกาดขาวเป็นเมนูที่ให้ความอร่อยแบบเรียบง่าย จากวัตถุดิบพื้นฐานที่คุ้นเคย หมูสับปั้นก้อนพอดีคำให้รสนุ่มแน่น เต้าหู้ไข่เพิ่มสัมผัสละมุนลิ้น และผักกาดขาวที่เมื่อเคี่ยวไปสักพักจะปล่อยความหวานตามธรรมชาติออกมาผสมในน้ำซุป ทำให้น้ำแกงมีความกลมกล่อม หอมอ่อนๆ จากกระเทียมและพริกไทย เมนูนี้มักเสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ แต่จะกินกับข้าวเหนียวก็ได้เช่นกัน โดยยังคงรสอ่อนละมุนและความหวานของผักที่ติดปลายลิ้นในทุกคำที่ตักค่ะ เคล็ดลับทำให้อร่อย คือ เลือกหมูสับไม่มันเกินไป คลุกกับซีอิ๊วขาวหรือพริกไทยนิดหน่อยก่อนปั้นก้อนเพื่อให้เนื้อแน่นนุ่มเมื่อสุก ใช้น้ำซุปที่ต้มจากกระดูกหรือจะใช้น้ำเปล่าก็ได้ แต่ควรช้อนฟองออกเพื่อให้น้ำแกงใสและหอม ใส่เต้าหู้หลังสุดเพื่อไม่ให้แตกเละ และปรุงรสเพียงเบาๆ เพื่อให้รสหวานจากผักกาดขาวเป็นตัวนำ ถ้าต้องการความหอมเพิ่ม สามารถใส่เห็ดหอมสดหรือโรยต้นหอมเล็กน้อยตอนเสิร์ฟ แกงจืดถ้วยนี้จึงเป็นเมนูที่ทำง่าย อร่อยโปร่งเบา และกินได้ทุกโอกาสค่ะ 2. ปลาเผาเกลือกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดและผักสด ปลาเผาเกลือกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดและผักสด เป็นเมนูที่โดดเด่นด้วยความเรียบง่ายแต่ให้รสชาติที่สดชื่นเป็นธรรมชาติ เนื้อปลาที่เผาทั้งตัวหลังคลุกเกลือบางๆ จะถูกอบด้วยไอร้อนจนสุกนุ่มภายใน ผิวด้านนอกช่วยรักษาความชุ่มฉ่ำของเนื้อปลา ทำให้ทุกคำที่กินมีทั้งความหอมอ่อนๆ จากควันไฟและเนื้อปลาที่หวานตามธรรมชาติ จานนี้มักเสิร์ฟคู่กับผักสดหลายชนิด เช่น ผักกาดหอม ถั่วฝักยาว โหระพา หรือแตงกวา ซึ่งช่วยเพิ่มความสดกรอบและเสริมรสให้จานนี้มีความสมดุลมากขึ้นค่ะ เมื่อกินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ปรุงจากพริกสด กระเทียม มะนาว และน้ำปลา กลิ่นหอมเปรี้ยวเผ็ดจะช่วยขับรสเนื้อปลาให้เด่นขึ้น ทำให้เป็นจานที่อร่อยเข้ากันอย่างลงตัว เคล็ดลับทำปลาเผาให้อร่อย คือ เลือกปลานิลหรือปลาทับทิมตัวสด ตาใส เนื้อแน่น และทำความสะอาดให้หมดจดก่อนคลุกเกลือ จากนั้นเผาไฟอ่อนถึงปานกลางเพื่อไม่ให้เนื้อด้านนอกไหม้เร็วเกินไป หากอยากให้เนื้อฉ่ำเป็นพิเศษ ให้ยัดตะไคร้หรือใบมะกรูดไว้ในท้องปลาเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมตามธรรมชาติ น้ำจิ้มซีฟู้ดควรปรุงใหม่ด้วยมะนาวสดเพื่อให้ได้ความหอมสดชื่น และผักสดที่กินเคียงต้องล้างสะอาดและสะเด็ดน้ำให้ดี สำหรับคนที่ซื้อจากร้าน สามารถสังเกตได้ง่ายๆ ว่าเนื้อปลาดีไหมจากความแน่นและความชุ่มฉ่ำ ไม่มีกลิ่นคาวแรง ราคาทั่วไปของปลาเผาเกลืออยู่ที่ประมาณ 70–100 บาทต่อชุด ถือเป็นเมนูที่เรียบง่ายและอร่อยค่ะ 3. น้ำพริกกะปิและผัก น้ำพริกกะปิและผักเป็นเมนูพื้นบ้านที่มีเสน่ห์ในความเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความหอมแบบไทยแท้ น้ำพริกที่ตำจากกะปิ พริก กระเทียม มะนาว และน้ำปลาพอประมาณ จะให้กลิ่นหอมชวนกินและรสเค็มเปรี้ยวเผ็ดที่กลมกล่อม เมื่อนำมากินคู่กับผักสดหรือผักลวก เช่น แตงกวา มะเขือ ถั่วฝักยาว หรือกะหล่ำปลี จะเพิ่มความสดกรอบและช่วยตัดรสให้พอดีในแต่ละคำ จุดเด่นของจานนี้อยู่ที่การผสมผสานของกลิ่นและรสชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว ทำให้เป็นเมนูที่หลายบ้านนิยมทำเป็นประจำเพราะกินง่าย อร่อยเร็ว และใช้วัตถุดิบพื้นฐานที่หาได้ทั่วไป เคล็ดลับให้น้ำพริกกะปิอร่อย คือ เลือกกะปิคุณภาพดีและคั่วหรืออังไฟให้หอมก่อนตำ จากนั้นตำพริกและกระเทียมให้เข้ากันก่อนค่อยปรุงรส เพื่อให้เนื้อเนียนและรสเข้มกำลังดี หากอยากได้น้ำพริกที่กลิ่นหอมสดชื่น ให้ใช้มะนาวสดแทนน้ำส้มสายชู และควรปรุงแบบทีละน้อยเพื่อให้รสไม่จัดเกินไป ส่วนผักที่กินเคียงควรล้างให้สะอาดและเลือกผักที่กรอบ สด เพื่อเพิ่มความอร่อยในทุกคำ สำหรับคนที่ซื้อจากร้าน ควรสังเกตว่าน้ำพริกไม่มันวาวหรือหวานจัดเกินไป และผักแนมต้องสดใหม่ ไม่มีคราบน้ำมัน ราคาชุดทั่วไปประมาณ 40–50 บาท ทำให้น้ำพริกกะปิและผักเป็นเมนูที่ง่าย อร่อย และเหมาะกับทุกมื้อของวันค่ะ 4. ปอเปี๊ยะสด ปอเปี๊ยะสดเป็นเมนูที่โดดเด่นด้วยความเรียบง่ายและรสชาติดี ตัวแป้งบางๆ ที่ห่อผักสด เต้าหู้ หรือเนื้อไก่ลวก จะให้สัมผัสนุ่มพอดีคำ เมื่อกัดเข้าไปจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของสมุนไพรอย่างผักชี ใบโหระพา ถั่วงอก และแตงกวาที่ช่วยให้รสชาติสดชื่นขึ้นทันที ความกลมกล่อมของเมนูนี้ขึ้นอยู่กับการจัดวัตถุดิบให้สมดุลระหว่างผัก เนื้อโปรตีน และซอสที่ราดด้านบน จึงเป็นเมนูที่กินง่าย และเหมาะกับคนที่ต้องการอาหารเร็วแต่ยังคงความสดใหม่ในทุกคำ เคล็ดลับให้ปอเปี๊ยะสดอร่อย คือ เลือกแป้งห่อคุณภาพดีที่ไม่ขาดง่าย ใช้ผักสดสะอาดและซอยเป็นเส้นให้พอดีเพื่อให้กัดง่าย วัตถุดิบในไส้ควรเป็นของที่ไม่มัน เช่น เต้าหู้ขาวลวกหรือไก่ฉีก และซอสราดควรทำสด ไม่หวานจัดหรือเหนียวเกินไป สำหรับคนที่ซื้อจากร้าน ควรสังเกตว่าผักยังกรอบสด แป้งไม่แข็ง และซอสราดแยกหรือราดพอชุ่ม ราคาทั่วไปของปอเปี๊ยะสดอยู่ที่ประมาณ 40–60 บาทต่อชุด ถือว่าเป็นเมนูที่เข้าถึงง่าย อร่อยพอดี และกินได้ทุกช่วงเวลาค่ะ 5. ต้มยำปลาทูน้ำใส ต้มยำปลาทูน้ำใสเป็นเมนูรสจัดแบบเบาๆ ที่ให้ความหอมสดของสมุนไพรไทยอย่างข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริกสด เมื่อปล่อยให้เคี่ยวไปสักพัก กลิ่นหอมจะซึมเข้ากับเนื้อปลาทูที่นุ่มกำลังดี ทำให้รสชาติออกมาเปรี้ยว เผ็ด เค็มแบบกลมกล่อมโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรุงมาก น้ำซุปใสช่วยให้รสของปลาเด่นชัดขึ้น และยังได้ความสดชื่นจากมะเขือเทศและเห็ดที่ใส่เพิ่มเพื่อให้รสสุมนุ่มนวลกว่าเดิม เมนูนี้เป็นอาหารที่หลายบ้านนิยมทำในวันที่อยากกินอะไรเบาๆ แต่ยังคงความแซ่บแบบไทยแท้ทุกคำ เคล็ดลับให้ต้มยำปลาทูน้ำใสอร่อย คือ ใช้ปลาทูสดตาใส เนื้อแน่น และล้างให้สะอาดก่อนลงหม้อ จากนั้นใส่สมุนไพรในตอนน้ำเดือดเพื่อต้มให้กลิ่นออกเต็มที่ แต่ควรใส่มะนาวหลังปิดไฟ เพื่อให้ได้ความเปรี้ยวหอมแบบสดใหม่ ไม่ขม ไม่ฝาด หากต้องการรสกลมกล่อมเป็นพิเศษให้เติมน้ำปลาเพียงเล็กน้อย และไม่ควรใส่น้ำตาลมากเกินไปเพื่อไม่ให้กลบกลิ่นปลา ส่วนคนที่ซื้อจากร้านควรเลือกน้ำซุปที่ใสไม่มัน ปลาทูไม่เละ และกลิ่นสมุนไพรชัด ราคาต้มยำปลาทูน้ำใสทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 50–60 บาทต่อถ้วย ทำให้เป็นเมนูที่ทั้งอร่อย สดชื่น และเข้าถึงง่ายในทุกมื้อค่ะ 6. ยำรสแซ่บต่างๆ ยำรสแซ่บต่างๆ เป็นเมนูที่โดดเด่นด้วยความสดชื่นและความจัดจ้านจากสมุนไพรไทยอย่างมะนาว พริกสด หอมแดง และขึ้นฉ่าย เมื่อคลุกเคล้ากับวัตถุดิบหลักอย่างวุ้นเส้นลวก เนื้อไก่ กุ้งลวก ปลาหมึก หรือแม้แต่ผักต่างๆ ก็จะได้รสเปรี้ยว เผ็ด เค็ม หอมสมุนไพรที่ลงตัวในทุกคำ ความอร่อยของยำอยู่ที่การปรุงแบบสดใหม่ น้ำยำที่ซึมเข้าเนื้อวัตถุดิบพอดี และการใช้วัตถุดิบที่กรอบสด เช่น มะเขือเทศ แตงกวา หรือผักชี ทำให้แต่ละจานให้ความรู้สึกเบา สะอาด และกินง่าย ไม่เลี่ยน กินเดี่ยวๆ ก็อร่อย หรือจะกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ก็เข้ากันดี เคล็ดลับให้ยำรสแซ่บอร่อย คือ ใช้น้ำมะนาวคั้นสดแทนมะนาวขวด เพื่อให้ได้ความหอมแบบธรรมชาติ เลือกพริกขี้หนูสดตำหยาบเพื่อเพิ่มกลิ่นเผ็ดและรสชาติที่คมชัด วัตถุดิบ เช่น กุ้งหรือปลาหมึกควรลวกให้สุกพอดี เพื่อให้เนื้อกรอบเด้งไม่แข็งเกินไป และควรคลุกน้ำยำกับส่วนผสมอย่างรวดเร็ว เพื่อให้รสซึมแบบกำลังดี แต่ไม่ทำให้ผักเหี่ยว หากซื้อจากร้านควรสังเกตว่าน้ำยำไม่ข้นจนเกินไป ไม่มันเยิ้ม และผักต้องสดมีสีสวย ยำตามร้านทั่วไปมีราคาประมาณ 50–70 บาทต่อจาน ทำให้เป็นเมนูที่เข้าถึงง่าย อร่อย และเหมาะกับคนที่ชอบความแซ่บแบบเบาๆ ในทุกมื้อค่ะ 7. ส้มตำ ส้มตำเป็นเมนูที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของอาหารไทย ด้วยเส้นมะละกอดิบที่กรอบสดคลุกเคล้ากับน้ำปรุงที่ให้รสเปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ดอย่างลงตัว มะเขือเทศ ถั่วฝักยาว และกระเทียมช่วยเพิ่มทั้งกลิ่นและรสชาติให้ชัดเจนขึ้น ทำให้ทุกคำมีสัมผัสสดชื่นแบบเฉพาะตัว จุดเด่นของส้มตำคือการตำสดใหม่ทุกจาน ทำให้วัตถุดิบยังคงรสธรรมชาติไว้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นตำไทย ตำปูปลาร้า หรือตำซั่ว ก็ล้วนให้ความแซ่บที่ต่างกันไปตามวัตถุดิบที่ใช้ เมนูนี้จึงเป็นหนึ่งในอาหารที่กินบ่อยแค่ไหนก็ไม่เบื่อ เพราะมีความหลากหลายและปรับรสได้ตามใจชอบ เคล็ดลับให้ส้มตำอร่อย คือ เลือกมะละกอดิบที่ยังกรอบแน่น ตำด้วยแรงพอประมาณเพื่อให้เส้นดูดซึมน้ำปรุงแต่ยังคงความกรอบอยู่ ไม่ควรใส่น้ำปลาหรือน้ำตาลมากเกินไป เพื่อให้รสชัดจากมะนาวและพริกเป็นตัวนำ หากเป็นตำปูหรือตำปลาร้า ควรเลือกวัตถุดิบที่สะอาดและปลาร้าที่ผ่านการต้มสุก เพื่อลดกลิ่นแรงและเพิ่มความปลอดภัย ส่วนคนที่ซื้อจากร้านสามารถสั่งปรับรสได้ เช่น “เผ็ดน้อย หวานน้อย” เพื่อให้ได้รสที่พอดีและไม่เลี่ยน ราคาส้มตำทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 40–50 บาทต่อจาน ทำให้เป็นเมนูอร่อย เข้าถึงง่าย และตอบโจทย์คนชอบความแซ่บในทุกช่วงวันค่ะ 8. หมูกระทะ หมูกระทะเป็นเมนูที่หลายคนชื่นชอบ เพราะรวมความสนุกในการกินและความหอมของเนื้อย่างไว้ในมื้อเดียว ความอร่อยของหมูกระทะอยู่ที่การย่างเนื้อสดบนกระทะร้อนๆ ที่ให้กลิ่นหอมเฉพาะตัว เนื้อหมู ไก่ หรือทะเลเมื่อโดนไฟจะมีรสหวานธรรมชาติ ผักอย่างผักกาดขาว เห็ด และคะน้าที่ลวกในน้ำซุปจะเพิ่มความสดและช่วยตัดรสให้พอดี ส่วนสำคัญอีกอย่าง คือ น้ำจิ้มที่ให้รสเปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ด ผสมกันอย่างกลมกล่อม ทำให้หมูกระทะเป็นมื้อที่กินได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อ ทั้งเพราะวิธีกินที่เพลิดเพลินและรสชาติที่เข้มข้นถูกปากทุกวัย เคล็ดลับให้หมูกระทะอร่อย คือ เลือกเนื้อสดสีสวย ไม่มีกลิ่น แนะนำให้เลือกเนื้อไม่ติดมันหรือหมูสันใน เพื่อให้ย่างแล้วนุ่มกำลังดี ถ้าต้องการให้เนื้อไม่แข็ง ให้หมักด้วยซีอิ๊วขาว พริกไทย และกระเทียมเล็กน้อยก่อนย่าง อีกเคล็ดลับคืออย่าใส่เนยหรือไขมันลงบนกระทะมากเกินไป เพราะจะทำให้เนื้อไหม้ง่ายจนเสียรส ควรรักษาไฟให้ปานกลางและนำผักลงลวกสลับกับการย่างเนื้อ เพื่อให้กระทะไม่ร้อนจนเกินไป หากซื้อจากร้านควรดูว่าร้านสะอาด เนื้อสด และน้ำจิ้มปรุงใหม่ ไม่ข้นหรือมันจนเกินไป ราคาหมูกระทะแบบบุฟเฟ่ต์ทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 199–299 บาทต่อคน หรือถ้าเป็นชุดเล็กตามตลาดจะอยู่ที่ราว 200-300 บาทต่อชุด ทำให้เป็นเมนูที่คุ้มค่า อร่อย และเหมาะกับการกินแบบสบายๆ ในหลายโอกาสค่ะ 9. ผัดผักรวมมิตร ผัดผักรวมมิตรเป็นเมนูที่อร่อยง่ายและได้ความสดจากผักหลากชนิดในจานเดียว ไม่ว่าจะเป็นแครอท ข้าวโพดอ่อน เห็ด คะน้า หรือกะหล่ำปลี เมื่อผัดด้วยไฟแรงจะยังคงความกรอบสีสดและความหวานธรรมชาติเอาไว้ได้อย่างชัดเจน ความกลมกล่อมของเมนูนี้เกิดจากการปรุงรสแบบเบาๆ โดยให้รสหลักมาจากผักเอง ทำให้กินง่าย ไม่เลี่ยน และเข้ากันได้ดีกับข้าวสวยร้อนๆ ความหลากหลายของผักยังช่วยให้เมนูนี้มีรสสัมผัสหลายแบบในคำเดียว ทั้งกรอบ นุ่ม หอม และหวานอ่อนๆ จึงเป็นจานผักที่หลายคนเลือกเวลาต้องการเมนูมีผัก แต่ยังคงความอร่อยแบบไทยๆ เคล็ดลับให้ผัดผักรวมมิตรอร่อย คือ แบ่งผักใส่ตามลำดับความสุกง่าย เช่น ใส่แครอทหรือข้าวโพดอ่อนก่อน แล้วตามด้วยผักใบเพื่อไม่ให้เละ ควรใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อยและผัดด้วยไฟแรง เพื่อให้ผักคงสีสดและรสหวานธรรมชาติ หากต้องการกลิ่นหอมเพิ่มสามารถใส่กระเทียมบุบลงไปเล็กน้อยก่อนผัด และไม่ควรปรุงรสเค็มหรือหวานมากเกินไปเพื่อให้รสผักเด่นชัด ส่วนคนที่ซื้อจากร้านอาหารตามสั่งให้สังเกตว่าน้ำผัดไม่มันเยิ้ม ผักยังมีสีสดกรอบ และไม่มีกลิ่นไหม้ ราคาผัดผักรวมมิตรทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 40–50 บาทต่อจาน ทำให้เป็นเมนูที่อร่อย คุ้มค่า และเพิ่มผักในมื้ออาหารได้อย่างง่ายดายค่ะ 10. ผัดผักบุ้งจีน ผัดผักบุ้งจีนไฟแดงเป็นเมนูเรียบง่ายที่ได้ใจหลายคน เพราะมีเอกลักษณ์ทั้งในเรื่องกลิ่นและรสชาติ ผักบุ้งจีนเมื่อผัดด้วยไฟแรงจะคงความกรอบสด หอมกระเทียมและพริกแดงที่ถูกคั่วด้วยความร้อนพอดี ทำให้รสชาติออกมาเค็มหวานเล็กน้อยแบบกลมกล่อม ความอร่อยของเมนูนี้อยู่ที่การผัดเร็ว ร้อนแรง และปรุงรสไม่มากเกินไปเพื่อให้รสหวานธรรมชาติของผักเด่นขึ้น ช่วยให้กินง่ายและสดชื่นในทุกคำ นอกจากนี้ผักบุ้งยังเข้ากันได้ดีกับข้าวสวยร้อนๆ ทำให้เป็นจานผักที่ไม่จืดชืดและอร่อยได้ทุกมื้อ เคล็ดลับให้ผัดผักบุ้งจีนอร่อย คือ ใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อยและผัดด้วยไฟแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไฟอ่อนจะทำให้ผักเหี่ยวและสีไม่สวย ควรทุบกระเทียมให้พอแตกเพื่อให้กลิ่นหอมชัด และใส่พริกแดงเพื่อเพิ่มกลิ่นและสีสัน ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำปลา หรือน้ำตาลเพียงเล็กน้อยเพื่อไม่ให้รสจัดกลบรสผัก หากซื้อจากร้านอาหารตามสั่ง ควรสังเกตว่าน้ำผัดไม่มันเยิ้มและผักยังคงสีเขียวสด ไม่เหี่ยวหรือดำเกินไป ราคาจานนี้โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 40–50 บาทต่อจาน จึงเป็นเมนูที่อร่อย เข้าถึงง่าย และเหมาะกับการเพิ่มผักในมื้ออาหารของทุกคนค่ะ 11. ผัดเห็ดฟาง ผัดเห็ดฟางเป็นเมนูที่โดดเด่นด้วยความหอมหวานธรรมชาติจากเห็ดสด เนื้อเห็ดฟางเมื่อผัดด้วยไฟแรงจะให้สัมผัสนุ่มหนึบ เคี้ยวเพลิน และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ไม่ต้องปรุงมากก็อร่อยได้ กระเทียมบุบเล็กน้อยช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้จานนี้กลมกล่อมขึ้น ส่วนผักอื่น เช่น แครอทหรือข้าวโพดอ่อน หากใส่เพิ่มลงไป จะทำให้รสและสีของเมนูดูน่ากินมากขึ้น ผัดเห็ดฟางเข้ากันได้ดีกับข้าวสวยร้อนๆ เพราะรสเค็มหวานอ่อนๆ และกลิ่นหอมจากกระเทียมช่วยให้กินง่ายทุกวัย จึงเป็นเมนูที่เหมาะกับคนที่อยากเพิ่มผักในมื้ออาหารแบบไม่หนักท้องและไม่เลี่ยนเลยค่ะ เคล็ดลับให้ผัดเห็ดฟางอร่อย คือ ใช้เห็ดสดเนื้อแน่น ล้างเร็วๆ และสะเด็ดน้ำก่อนผัดเพื่อไม่ให้จานน้ำมากเกินไป ควรใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อยและผัดด้วยไฟแรง เพื่อให้เห็ดคงความหวานธรรมชาติ ใส่กระเทียมลงไปตอนกระทะร้อนเพื่อให้กลิ่นชัดขึ้น ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวหรือซอสเล็กน้อยเท่านั้นเพื่อไม่กลบรสเห็ด หากซื้อจากร้านอาหารตามสั่ง ควรสังเกตว่าน้ำผัดไม่มันเยิ้ม เห็ดยังมีสีสดและไม่ช้ำเกินไป ราคาผัดเห็ดฟางทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 40–50 บาทต่อจานค่ะ ซึ่งเป็นเมนูที่หากินง่าย อร่อยเรียบง่าย และเพิ่มผักในมื้ออาหารได้อย่างสบายใจค่ะ 12. แกงหน่อไม้ดองใส่ปลาดุก แกงหน่อไม้ดองใส่ปลาดุกเป็นเมนูพื้นบ้าน ที่ให้กลิ่นหอมของสมุนไพรไทยอย่างตะไคร้ ข่า ใบแมงลัก และผสานกับรสเปรี้ยวเฉพาะของหน่อไม้ดองได้อย่างลงตัว เมื่อเคี่ยวไปสักพัก หน่อไม้ดองจะปล่อยรสเปรี้ยวหอมอ่อนๆ ออกมารวมกับน้ำแกง ทำให้ได้รสชัดแบบไทยแท้ ปลาดุกที่ใส่ลงไปจะดูดซึมรสของเครื่องแกงและซุปจนเนื้อนุ่ม หอม และไม่คาว กลิ่นสมุนไพรที่ลอยขึ้นมาขณะตักกินช่วยให้จานนี้สดชื่นขึ้นทันที จึงเป็นเมนูที่หลายบ้านชอบทำเวลาต้องการอาหารแซ่บแบบเบาๆ แต่รสเข้มชัดในทุกคำ เคล็ดลับให้แกงหน่อไม้ดองใส่ปลาดุกอร่อย คือ ควรล้างหน่อไม้ดอง 2–3 ครั้งเพื่อลดความเค็มและกลิ่นแรง จากนั้นต้มหน่อไม้ก่อนลงเครื่องแกงเล็กน้อย เพื่อให้รสกลมขึ้น เลือกปลาดุกสดเนื้อแน่น และใส่ลงในหม้อหลังน้ำต้มหน่อไม้เดือด เพื่อให้เนื้อปลานุ่มแต่ไม่เละ การเคี่ยวเครื่องแกงให้หอมก่อนเติมน้ำ จะช่วยให้น้ำแกงมีกลิ่นและรสชัดเจนขึ้น ส่วนใบแมงลักควรใส่ตอนท้ายเพื่อให้คงกลิ่นสดธรรมชาติ หากซื้อจากร้าน ควรสังเกตว่าน้ำแกงใสไม่มัน หน่อไม้ไม่เปรี้ยวจัดจนเกินไป และปลาดุกชิ้นสวยไม่เละ ราคาทั่วไปของแกงหน่อไม้ดองใส่ปลาดุกอยู่ที่ประมาณ 40–50 บาทต่อถ้วย ทำให้เป็นเมนูอร่อยจัดจ้านที่ประหยัดและเข้าถึงง่ายในทุกมื้อค่ะ 🌿🐟 ก็จบแล้วค่ะ จะเห็นว่าอาหารแคลน้อยไม่ใช่อะไรที่ต้องหาไกลหรือทำยาก เพราะมีอยู่รอบตัวเราแทบทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ ยำแบบต่างๆ ต้มยำใส ผัดผัก หรือปลาเผา เมนูเหล่านี้ล้วนเป็นตัวอย่างของอาหารที่เราก็คุ้นเคยกันดีและยังอร่อย ซึ่งบางคนก็คุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กและพบได้ทั่วไปตามตลาด ร้านข้าวแกง ร้านอาหารตามสั่ง ไปจนถึงการทำเองในครัวบ้านค่ะ ความสะดวกของอาหารประเภทนี้ คือ สามารถปรับรสชาติได้ตามใจได้ ชอบเผ็ดมากก็เพิ่มพริก ชอบรสอ่อนก็ลดเครื่องปรุง ชอบแบบแห้งหรือแบบน้ำก็เลือกได้ จึงเป็นอาหารที่เข้าได้กับทุกไลฟ์สไตล์ค่ะ โดยเมื่อมองดีๆ อาหารแคลน้อยเป็นกลุ่มอาหารที่แต่ละบ้านทำกันอยู่แล้ว หรือซื้อจากร้านใกล้ตัวได้ง่ายโดยไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกินมากนัก จะทำเองก็สะดวกเพราะใช้วัตถุดิบพื้นฐานที่หาได้ทั่วไป แต่ถ้าไม่มีเวลา ก็มีขายตามร้านในราคาจับต้องได้และรสชาติเข้าถึง ผู้คนจึงเลือกเมนูเหล่านี้ตามความสะดวกของแต่ละวัน จะทำกินเองในวันที่มีเวลาหรือซื้อกินในวันที่เร่งรีบ ก็ยังคงอร่อย สดใหม่ และตอบโจทย์แบบที่แต่ละคนต้องการได้อย่างพอดีค่ะ 🌿🍽️ จริงๆ แล้วเมนูทั้งหมดที่ผู้เขียนได้นำเสนอไว้นั้น ในชีวิตประจำวันผู้เขียนก็ทำขึ้นมารับประทานเรื่อยๆ ค่ะ ถ้าเป็นหมูกระทะก็ได้ซื้อมารับประทานเป็นระยะๆ แต่เน้นการหมุนเวียนสับเปลี่ยนไปแบบไม่ซ้ำซากหรือจำเจค่ะ โดยเมนูที่ทำบ่อยๆ จะเป็นส้มตำนะคะ รองลงมาคือกลุ่มผัดผัก และเมนูที่สามคือแกงหน่อไม้ดองใส่ปลาดุกค่ะ ยังไงนั้นหากตอนนี้คุณผู้อ่านสนใจอยากลองทานเมนู ก็มีข้อมูลแล้วนะคะ และด้วยความตั้งใจ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากคุณผู้อ่านชื่นชอบเนื้อหาแนวนี้ อย่าลืมกดติดตามหรือบันทึกโปรไฟล์ไว้ เพื่อจะได้ไม่พลาดข้อมูลใหม่ๆ ในบทความถัดไป หากสนใจอ่านบทความทั้งหมดของผู้เขียน ก็สามารถกดเข้าไปดูได้จากโปรไฟล์เช่นกันค่ะ #เมนูแคลอรีน้อย #อาหารพลังงานต่ำ #เมนูชูสุขภาพ #LowCalorieFood #HealthyThaiFood เครดิตรูปภาพประกอบบทความ รูปภาพทำหน้าปก ถ่ายภาพโดย Jcomp จาก FREEPIK และออกแบบหน้าปกโดยผู้เขียน ใน Canva รูปภาพประกอบเนื้อหา ถ่ายภาพโดยผู้เขียน เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การบำบัดน้ำเสียและกำจัดสิ่งปฏิกูล 13 เมนูกินได้หลายคน ในวันหยุดกับครอบครัว เหมาะกับเลี้ยงสังสรรค์ 9 เมนูอาหารไทย ที่ไม่ควรเก็บเกิน 1 วัน เพราะเสียง่ายมาก! 12 เมนูกินกับผักสลัดอร่อย เข้ากันได้ดี จนต้องขอเพิ่มเป็นกำๆ หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !