สวัสดีค่ะผู้อ่านและผู้เขียน TrueID In-trend ทุกท่าน กลับมาทักทายกันอีกครั้งพร้อมเมนูอร่อย ๆ แบบเฉพาะตัวของชาวปักษ์ใต้กันนะคะ วันนี้มาว่ากันด้วยเรื่อง “น้ำเคยพุงปลา” หรือ “แกงไตปลา” นั่นเองค่ะ สำหรับแกงไตปลานั้นจะใช้วัตถุดิบหลักก็คือ “ไตปลาขวด” ค่ะ ซึ่งไตปลาก็คือการถนอมอาหารชนิดหนึ่ง ที่ทำโดยการหมักดอง ใช้กระเพาะของปลาในการทำ เช่น ปลาช่อน ปลาลัง ปลาดุก เป็นต้น โดยต้องเอาดีของปลาออกก่อนนะคะ แล้วนำมาหมักกับเกลือ หมักไว้ 20-30 วันก็เป็นอันใช้ได้ ไตปลาที่ได้จะเป็นแบบน้ำเหลว ๆ สีออกน้ำตาลไปจนถึงดำ สามารถนำมาทำอาหารได้หลายอย่าง เช่น ผัดกับเนื้อปลาทำเป็นแกงไตปลาแห้ง หรือทำเป็นแกงน้ำเคยพุงปลาก็ได้ค่ะ วันนี้เราจะมาทำเมนู “น้ำเคยพุงปลา” กันนะคะ น้ำเคยพุงปลาหรือแกงไตปลาคือกางที่มีไตปลาเป็นส่วนประกอบหลัก มีทั้งแบบที่ใส่กะทิและไม่ใส่กะทิค่ะ โดยวันนี้เราจะทำแบบที่ใส่กะทิ ซึ่งจะมีส่วนผสมและวิธีการทำอย่างไรกันบ้างนั้น ไปชมกันเลยค่ะ ส่วนผสมของแกงน้ำเคยพุงปลา มีดังนี้ค่ะ 1. ไตปลาแบบขวด 2. ปลาทูย่างแกะเอาแต่เนื้อ 3. เครื่องแกง (ประกอบด้วย พริกขี้หนู ตะไคร้ ขมิ้น กระเทียม พริกไทยดำ ตำให้ละเอียดเข้าด้วยกัน) 4. กะปิ 5. ข่าแก่ 6. ใบมะกรูด 7. น้ำกะทิ 8. น้ำตาลแว่น วิธีการทำ 1. นำไตปลากรองด้วยกระชอนแล้วใส่ข่าแก่ลงไปเพื่อดับกลิ่นคาว จากนั้นตั้งไฟให้พอเดือดแล้วยกลงพักไว้ 2. เทน้ำกะทิใส่หม้อขึ้นตั้งไฟ พอเริ่มเดือดใส่เครื่องแกงและกะปิลงไป 3. ใส่ไตปลาที่กรองไว้ลงไป 4. พอเดือดใส่เนื้อปลาที่ย่างไว้ลงไป 5. ปรุงรสด้วยน้ำตาลแว่น เนื่องจากไตมีความเค็มอยู่แล้วจึงไม่ได้ต้องเติมเกลือลงไปแล้วค่ะ ชิมรสตามชอบ จากนั้นใส่ใบมะกรูดเป็นอันเสร็จค่ะ ปกติจะใส่ผักลงไปด้วย เช่น มัน หน่อไม้ ถั่วฝักยาว เป็นต้น แต่วันนี้ไม่ได้ใส่ผักอะไรเลยค่ะ ใส่แต่เนื้อปลาอย่างเดียวเพราะไม่มีผัก รสชาติของแกงไตปลาแบบใส่กะทิจะออกเค็ม มัน หวานนิดเดียว เผ็ดนิดหน่อย ออกกลมกล่อมค่ะ ทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ แนมด้วยผักสด เช่น แตงกวา สะตอ ถั่วฝักยาว ฯลฯ อร่อยมากค่ะ (เวลาทานอย่าราดน้ำแกงเยอะนะคะ ไม่งั้นเค็มเกิน ลองชิมก่อนแล้วค่อย ๆ เติม) เป็นเมนูที่ทานข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยจริง ๆ ลองทำทานกันดูนะคะ ภาพประกอบทั้งหมดโดย : ผู้เขียน