ฉันเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ชอบรับประทานอาหารเกาหลี และพยายามตามหาลายแทงร้านอาหารเกาหลีในเชียงใหม่ ไม่รู้ว่าโชคดีหรือเปล่านะ ที่อยู่ดี ๆ ก็มีใครไม่รู้เอาหนังสือเล่มนี้มาแจกฟรี ณ ที่ทำงานของฉัน เป็นคู่มือแนะนำร้านอาหารเกาหลีในประเทศไทย (กรุงเทพ) นั่นแปลว่าฉันมีรายชื่อร้านอาหารเกาหลีในกรุงเทพอยู่กับมือ ในขณะที่ตัวฉันยังอยู่เชียงใหม่ และไม่ได้มีโอกาสไปกรุงเทพในช่วงนี้ด้วย จึงได้แค่เปิด ๆ ดูลายแทงสมบัติอันไกลโพ้น และมาเล่าสู่กันฟังในบทความนี้ คู่มือเล่มนี้มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Korean Restaurant Guide Thailand (Bangkok) จัดทำโดย Korean Food Foundation (KFF) เป็นสถาบันอาหารของประเทศเกาหลี ทำหน้าที่เผยแพร่วัฒนธรรมอาหารของคนเกาหลีที่เรียกว่าฮันซิก (Hansik) ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งคู่มือเล่มดังกล่าวได้จัดทำในรูปแบบ 3 ภาษา คือ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาเกาหลี เนื้อหาในเล่มเป็นการแนะนำร้านอาหารเกาหลีในกรุงเทพฯ ที่คัดสรรมาอย่างดีว่าเป็นร้านที่ดีที่สุด โดยแบ่งร้านอาหารเหล่านี้ตามเขตในกรุงเทพฯ เป็น 2 กลุ่ม และเรียงลำดับตัวอักษรของชื่อร้าน เพื่อให้ค้นหาเนื้อหาในตัวเล่มได้ง่าย การแนะนำร้านอาหารของคู่มือเล่มนี้จะมีรูปแบบเหมือนกันทุกรายการคือ เริ่มต้นจากคำวิจารณ์สั้น ๆ หนึ่งประโยค และให้รายละเอียดคือชื่อร้าน สถานที่ตั้ง ประวัติความเป็นมา เมนูยอดนิยมประจำร้าน พร้อมภาพประกอบอาหารแบบยั่วน้ำลายสุด ๆ เห็นแล้วอยากวาร์ปตัวไปที่ร้านอาหารนั้นทันที และในหน้าสุดท้ายของแต่ละร้านจะมีข้อมูลเวลาทำการ สถานที่ตั้ง และช่องทางการติดต่อร้านอย่างละเอียด ซึ่งทั้งหมดนี้มีทั้ง 3 ภาษาโดยเริ่มจากภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาเกาหลีตามลำดับ เท่าที่ฉันเปิดดูข้อมูลของแต่ละร้าน พบว่าบางร้านเป็นอาหารเกาหลีแบบดั้งเดิม บางร้านเป็นอาหารเกาหลีแบบฟิวชั่น แต่ฉันเอนเอียงไปทางร้านเกาหลีแบบดั้งเดิมมากกว่า เพราะอยากสัมผัสรสชาติของอาหารสัญชาติเกาหลีที่แท้จริง ตอนนี้มีหลายร้านที่ดึงดูดให้ฉันอยากสั่งให้มาส่งข้ามจังหวัดเสียจริง ๆ ก็คือร้าน Salroman Chimac ตั้งอยู่ในโคเรียนทาวน์ย่านสุขุมวิท ภาพที่ฉันเห็นคือไก่ไม่มีกระดูกทอดราดซอสพริกเผ็ดของเกาหลี เสิร์ฟพร้อมกิมจิผักกาดขาวลูกเต๋ากรอบ ๆ ยังมีร้าน The Bibimbab ในห้างสยามพารากอนอีกแห่งหนึ่งที่ทำให้ฉันนึกถึงข้าวยำเกาหลีสารพัดท้อปปิ้ง คลุกเคล้าด้วยซอสโคชูจัง เสิร์ฟในหม้อหินอบร้อน ยิ่งพูดยิ่งหิว ณ เวลานี้ และยังมีร้านแฟรนไชส์อาหารเกาหลีชื่อดังสุด ๆ ที่เคยเปิดที่เชียงใหม่มาก่อน นั่นคือ Tudari เมนูเด็ดคือต๊อกบกกีหม้อไฟสุดอลังการที่ราดซอสสีดำรสเผ็ดร้อนไว้บนเส้นรามยอน ในหม้ออัดแน่นไปด้วยต็อกบกกี ปลาแผ่น เต้าหู้ ไข่ต้ม ผัก หากยังไม่จุใจ สั่งท้อปปิ้งอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ ปัจจุบัน Tudari ไม่มีที่เชียงใหม่แล้ว ถ้าฉันอยากรับประทานคงต้องไปถึงกรุงเทพฯ สินะ ได้แต่ภาวนาขอให้กลับมาเปิดที่เชียงใหม่อีกครั้งเถิด สาธุ! นอกจากคู่มือเล่มนี้จะแนะนำร้านอาหารเกาหลีคัดสรรในกรุงเทพฯ แล้ว ท้ายเล่มยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารเกาหลียอดนิยมในประเทศไทยทั้ง 51 เมนูด้วยค่ะ โดยเรียงตามตัวอักษรของชื่อภาษาอังกฤษของอาหาร มีข้อมูลอาหารชนิดนั้นอย่างคร่าว ๆ 3 ภาษา พร้อมภาพประกอบขนาดเล็ก แน่นอนว่ามีเมนูที่ฉันชอบอย่างบิบิมบับเป็นหนึ่งใน 51 เมนูนี้ด้วย มาจนถึงหน้าปกหลังของคู่มือเล่มนี้เป็นการแนะนำคู่มือแนะนำร้านอาหารเกาหลีในรูปแบบแอปพลิเคชัน สามารถค้นหาด้วยคำว่า KFF ใน Google Play และ App Store เพื่อดาวน์โหลดใช้งานได้ แต่ฉันไม่ได้ทดลองดาวน์โหลดมาใช้งานแต่อย่างใด เพราะมีข้อมูลในคู่มือเล่มนี้แล้ว คู่มือเล่มนี้ทำให้ฉันได้เห็นว่า ประเทศเกาหลีได้ผลักดันให้วัฒนธรรมอาหารในประเทศของตนเองเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งได้รับอิทธิพลอาหารมาจากละคร ภาพยนตร์เกาหลีที่ฉายในประเทศไทย ทำให้คนที่รับชมเกิดความสนใจอยากลองรับประทานดูบ้าง เมื่อรับประทานแล้วก็ไม่ผิดหวัง เพราะอาหารเกาหลีมีรสชาติจัดจ้านซึ่งถูกปากคนไทยเป็นอย่างมากหากเทียบกับอาหารชาติอื่น ๆ ในละแวกใกล้เคียงกันกับเกาหลี ทำให้มีร้านอาหารเกาหลีมาเปิดสาขาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และเป็นที่มาของคู่มือแนะนำร้านอาหารเกาหลีเล่มนี้ ซึ่งอาจจะหาตัวเล่มยากสักเล็กน้อย สำหรับคนที่อยู่กรุงเทพฯ ลองตามรอยร้านอาหารเกาหลีจากคู่มือนี้ในเวอร์ชันแอปพลิเคชันแทนได้ค่ะ ภาพปกและภาพประกอบหนังสือถ่ายโดยผู้เขียน ภาพบิบิมบับ (Source: Pixabay โดย nikluv) ภาพต๊อกบกกีและรามยอน (Source : Wikipedia Commons โดย Epulum)