หากเป็นในอดีต หน้าที่ของการเข้าครัวทำอาหาร แน่นอนว่าต้องเป็นผู้หญิงหรือแม่ครัวเป็นหลัก จนถึงขนาดมีปลากระป๋องเจ้าตำนานเกือบ 50 ปี (ก่อตั้งปี 2516 ปัจจุบัน 49 ปี) อย่าง "สามแม่ครัว" ที่เราชอบนำมาปรุงอาหารหรือพกพาไปทำอาหารยามเดินทางต่างๆ แต่ปัจจุบันงานครัวผู้ชายก็เข้าถึงได้ จนทำเป็นอาชีพเชฟเลยก็มี คนดังอย่างเช่น เชฟเอียน (จากรายการเชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย) เชฟพล ตัณฑเสถียร (นักแสดงคนดัง) เพราะหลงใหลและชื่นชอบการทำอาหารจนผันตัวเองเป็นพ่อครัวหรือเชฟมืออาชีพที่มีชื่อเสียง ดังนั้นผู้ชายคนไหนที่ชอบเข้าครัวก็มักจะได้ก็มักจะถูกเรียกว่า "พ่อครัวหัวป่าก์" กัน (คำว่า ป่าก์ มาจากภาษาบาลี-สันสกฤต ปา-กะ ที่หมายถึง การหุงต้ม) ซึ่งก็ถือว่ากลายเป็นเรื่องปกติเฉกเช่นเดียวกับผู้หญิงที่สามารถขับรถยนต์ได้ ทำงานช่างได้ในปัจจุบัน ที่กล่าวมาข้างต้นไม่ได้ต้องการบอกว่าผู้เขียนเป็นคนทำอาหารเก่งหรือถนัดครัวแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าเป็นอีกช่วงเวลาที่มีความสุขเวลาได้เข้าครัวเหมือนกัน อาหารก็ทำได้แค่พื้นๆ แค่กินคนเดียวได้ไม่อด พวกเมนูไข่ เมนูผัด ต้มบ้าง ทอดบ้างเท่านั้น เมนูไหนที่มีส่วนประกอบเยอะก็ต้องพิถีพิถันหน่อย และเมนูโปรดที่ง่ายสุดๆ สำหรับผู้เขียนก็คือ ผัดมะละกอใส่ไข่ ที่ทำกินมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะตอนนั้นชอบกินมากๆ ยิ่งมะละกอใกล้สุกยิ่งอร่อย มีความหวานในตัว บวกเผ็ดเล็กน้อยจากพริก และกลมกล่อมจากไข่ เลยกลายเป็นเมนูโปรดที่ทำกินอยู่บ่อยๆ ถ้าในบ้านก็ต้องยกให้แม่เรื่องการทำครัว รวมทั้งภรรยากับน้องสาวที่ทำกับข้าวเป็นหลัก หลายๆ เมนูก็เรียนรู้มาจากแม่ จะเป็นกับข้าวบ้านๆ เรียบง่าย แต่อร่อยเสมอ ไม่เน้นความมัน หวาน เค็ม เน้นแบบดั้งเดิม ส่วนเมนูภรรยาก็ผสมทั้งของเก่าและใหม่ โดยเฉพาะเมนูตามร้านอาหาร เธอก็ทำได้เกือบทุกอย่าง จึงได้รับหน้าที่เป็นแม่ครัวหรือคิดเมนูอาหารในงานต่างๆ อยู่เสมอ แต่อีกคนที่ได้ทั้งงานหนักและครัว คือ น้องเขย ที่มีความสุขกับการเข้าครัวเช่นกัน รวมทั้งเพื่อนๆ ผู้ชายหลายคนในกลุ่มที่สนิทกันทำอาหารเก่งมาก โดยเฉพาะเมนูป่า เพราะหลายๆ คนชอบเข้าไปพักแรมในป่าบ่อยๆ ก็จะมีวิธีการปรุงอาหารที่เก่ง เราก็ได้เป็นแต่ลูกมือ ช่วยเตรียม จัดวัตถุดิบให้เท่านั้น เวลาต้องทำอาหารกินเองก็ทำได้ แต่ก็ไม่ได้เก่งอะไร ทำกินกันในบ้านเป็นหลัก ยิ่งถ้าทำเพื่อกินคนเดียวยิ่งง่าย และยิ่งสนุกใหญ่เพราะเมนูที่ทำบางครั้งก็จะเป็นเมนูผสมผสาน คิดเองบ้าง นึกเอาเองว่าต้องใส่อันนั้นอันนี้ ก็รู้สึกสนุกดี เวลามีงานส่วนรวมก็มีโอกาสไปช่วย คนที่ไม่รู้ก็นึกว่าทำอาหารเก่ง ที่แท้ก็แค่ช่วยหั่น ช่วยผัด ช่วยไปส่งเท่านั้น แต่ก็มีความสุขเวลาที่ได้ทำอาหารอยู่เหมือนกัน เป็นเหมือนศิลปะที่แรกเริ่มไม่รู้จะออกมาอย่างไร ทำไปเรื่อยๆ ภาพก็ค่อยๆ เกิด จนสำเร็จอยู่ในจาน พร้อมที่จะกินได้ รสชาติอาจจะไม่กลมกล่อมเหมือนมืออาชีพ แต่ก็พอกินกันได้ จึงรู้สึกชื่นชมผู้ที่ทำอาหารได้ทุกคน ที่สามารถสร้างสรรค์เมนูต่างๆ ได้ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมจึงมีรายการแข่งขันทำอาหาร มีโจทย์ยากๆ กับวัตถุดิบที่กำหนดให้ ซึ่งแต่ละคนไม่เพียงต้องคิดสร้างสรรค์ทำออกมาให้ดูสวยงามด้วย ต้องกินได้อีกด้วย คนทำครัว ไม่ว่าจะเป็นพ่อครัวหรือแม่ครัว เป็นผู้เบื้องหลังงานต่างๆ ที่คนอื่นไม่ค่อยได้รับรู้ แต่เป็นผู้ที่ทำให้งานต่างๆ ออกมาดูดีและสำเร็จอยู่ได้เสมอ ถ้าเราไม่เข้าใจประโยคที่ว่า "กองทัพต้องเดินด้วยท้อง" ดีพอ ก็ขอให้ลองไปทำหน้าที่ในครัวดู แล้วจะรู้และเข้าถึงประโยคนั้นเอง อาหารการกินเลยเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 (อาหาร เสื้อผ้า ยารักษาโรค และที่อยู่อาศัย) ที่เราทุกคนขาดไม่ได้นั่นเอง...ถ้าอย่างนั้นเราไปเข้าครัวกันเถอะ!!เครดิต ภาพปก และภาพประกอบที่ 1-7 โดยผู้เขียน