หลายท่านอาจจะเคยได้ยินข่าวการ Rebranding ของ TrueCoffee กันมาบ้างแล้ว ซึ่งในวันนี้ผมจะขอพาทุกท่านไปพบกับโฉมใหม่ของ TrueCoffee Flagship Store at Center Point of Siam Square (ทรูคอฟฟี่ แฟลกชิพสโตร์ เซ็นเตอร์พอยท์ สยามสแควร์) คาเฟ่แห่งแรกในประเทศไทย ที่ผสมผสานนวัตกรรมด้านกาแฟกับเทคโนโลยีของหุ่นยนต์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว นอกจากจะเป็นการรีแบรนด์โลโก้หลักของร้านแล้ว ยังมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของร้าน การให้บริการโดยใช้เทคโนโลยีจากหุ่นยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการชงกาแฟหรือการเสิร์ฟเครื่องดื่มและอาหารภายในร้านด้วยหุ่นยนต์ นอกจากนี้ก็ยังมี Co-working Space ไว้ให้บริการกับทุกคนได้ใช้ทำงานกันในราคาที่จับต้องได้อีกด้วย นี่จึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก ๆ สำหรับผมและหลาย ๆ คนที่ยังไม่เคยได้สัมผัสอะไรแบบนี้มาก่อนอย่างแน่นอน ว่าแล้วตอนนี้ก็ได้เวลาเติมกาแฟให้กับเช้าวันใหม่แล้ว ผมขอตัวเดินทางไปที่ร้านก่อนนะครับ จากโลโก้เดิมที่ใช้มายาวนานถึง 15 ปี ปัจจุบันนี้ได้เปลี่ยนโลโก้ใหม่เรียบร้อย ดูเรียบง่ายแต่กลับสื่อสารออกมาได้อย่างเรียบหรูและลงตัวมาก ๆ บรรยากาศร้าน1st Floor (ชั้น 1 โซนสั่งอาหารและเครื่องดื่ม) ตัวอาคารจะเป็นกระจกใสมองเห็นรอบทิศทางทั้งจากด้านนอกและด้านใน เมื่อเข้ามาภายในร้านทุกท่านจะพบกับจุดสั่งซื้อและรับเครื่องดื่ม เบเกอรี่ และสินค้าอื่น ๆ เป็นอันดับแรก โดยอยู่ติดกับประตูฝั่ง BTS เลยครับ เรียกได้ว่าเข้ามาถึงก็สั่งอาหารและเครื่องดื่มได้เลย น้อง ๆ พนักงานดูแลและให้คำแนะนำเมนูต่าง ๆ ด้วยรอยยิ้มทุกท่าน แค่เดินเข้ามาก็ประทับใจแล้วครับที่ชั้นนี้จะมีอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกภายในตู้โชว์ หรือจะดูเมนูก่อนสั่งก็ได้นะครับ น้อง ๆ จะให้คำแนะนำทุกท่านก่อนสั่งทุกครั้ง เมล็ดกาแฟที่ใช้ทำเครื่องดื่มประเภทกาแฟของที่ร้านจะมีให้เลือกมากมายเลยครับ เช่น True Roasted (เมล็ดกาแฟหลักสำหรับทำเครื่องดื่มใน Espresso Bar) เป็นกาแฟ Thai Arabica 100% จากภาคเหนือของประเทศไทย โดยใช้วิธีการคั่วแบบ Medium to Dark เพื่อให้กาแฟมีรสชาติและกลิ่นที่เข้มเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมล็ดกาแฟนี้จะเป็นชนิดหลักในเมนูเครื่องดื่มของทรูครับ The Founder Blend เป็นเมล็ดกาแฟ Thai Arabica 100% ที่ผสมผสานจากหลายแหล่งที่ปลูกของภาคเหนือ นำมาพัฒนาเป็นแบบฉบับของ TrueCoffee เอง กาแฟชนิดนี้จะให้รสชาติแบบโกโก้ มีรสชาติเปรี้ยวติด ๆ มาด้วยเช่นกัน Mae Kampong (เมล็ดกาแฟแม่กำปอง) จากจังหวัดเชียงใหม่ มีรสชาติที่เข้ม มีกลิ่นหอมของดอกไม้ แต่ยังคงรสชาติแบบโกโก้อยู่ ถ้าลองชิมแล้วจะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว Sobkhun (เมล็ดกาแฟสบขุ่น) จากดอยสบขุ่น จังหวัดน่าน เป็นกาแฟ Thai Arabica 100% เช่นเดียวกัน แต่จะมีรสชาติที่เบา กลิ่นและรสชาติของกาแฟจะออกไปทางผลไม้ที่ชัดเจนมาก ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มดื่มกาแฟเป็นครั้งแรก นอกจากเมล็ดกาแฟที่ใช้ทำเครื่องดื่มภายในร้านแล้ว ท่านใดสนใจจะนำเมล็ดกาแฟกลับไปทำดื่มเองที่บ้านก็สามารถเลือกซื้อกลับได้เช่นกันนะครับ ในส่วนของ Bakery ก็จะทำออกจากเตากันแบบร้อน ๆ เลยครับ แต่ละชนิดน่ารับประทานมาก ๆ Waiting Area Zone (โซนนั่งชั้น 1)ในชั้นนี้จะมี 2 โซนด้วยกันนะครับ ด้านซ้ายจะเป็น Robotic Zone เป็นจุดให้บริการลูกค้าด้วยหุ่นยนต์อัจฉริยะในการเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มครับ ส่วนด้านขวาจะเป็นพื้นที่กว้างขวางให้ลูกค้าได้นั่งสัมผัสบรรยากาศภายในร้านRobotic Zone จะมีเจ้าหุ่นยนต์หนุ่มหล่อคอยให้บริการเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มอยู่ครับ เจ้าหุ่นตัวนี้เรียกว่า True 5G Serving Bot Agent เป็นหุ่นยนต์บริการที่มีถาดเสิร์ฟ 3 ชั้น สามารถเสิร์ฟตามที่นั่งของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมาก ๆ มีระบบป้องกันการชนวัตถุต่าง ๆ ทำงานด้วยเซ็นเซอร์อัจฉริยะ Ultrasonic และยังมีมีระบบอัตโนมัติ ที่สามารถฟัง พูด มอง และสื่อสารกับลูกค้าตามข้อมูลที่บันทึกไว้ได้อีกด้วย เท่าที่ผมลองใช้งานดูขอบอกเลยครับว่าสะดวกมาก ๆ ส่วนวิธีการใช้งานนั้นก็ง่าย ๆ โดยน้องพนักงานจะเป็นคนแนะนำให้ตลอดเลยครับอันดับแรก เมื่อสั่งเครื่องดื่มและอาหารเรียบร้อยแล้ว สามารถแจ้งกับน้องพนักงานได้เลยครับว่านั่งอยู่ที่โต๊ะไหน (Robotic Zone) เมื่อได้รับออเดอร์เรียบร้อย น้องจะกดปุ่มเลือกโต๊ะที่หน้าจอควบคุมของหุ่นยนต์ครับ ผมทดสอบให้หุ่นยนต์นำทางมาที่โต๊ะ A2 เจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้ก็สามารถนำทางมาได้จริง ๆ ครับ หลังจากนั่งรอจนได้เครื่องดื่มแล้ว น้องพนักงานก็จะนำเครื่องดื่มใส่ลงไปในถาด แล้วหุ่นยนต์ตัวนี้ก็จะนำมาเสิร์ฟให้ถึงที่เลยครับ สะดวกมาก ๆ แถมช่วยเว้นระยะห่างทางสั่งคมและลดการสัมผัสได้อีกด้วยครับ Technology Zone : Smart Cooler ตู้แช่เย็นเครื่องดื่มอัตโนมัติ มีให้เลือกทั้งเครื่องดื่มและเบเกอรี่ โดยจัดการระบบชำระเงินและรับสินค้าแบบ Realtime ด้วย True 5G AI Easy Pick ซึ่งสามารถชำระเงินด้วยการสแกน QR CODE ด้วยกระเป๋าเงิน True Money Wallet ที่หน้าตู้ได้เลยครับ2nd Floor Slow Bar (ชั้น 2 โรงคั่วกาแฟและหุ่นยนต์ดริปกาแฟ)เมื่อเดินขึ้นบันไดเลื่อนมาที่ชั้น 2 (Robot Barista Zone) ทุกท่านจะได้พบกับหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ที่ยืนเด่นอยู่ด้านหลังของอุปกรณ์ดริปกาแฟ เจ้าหุ่นตัวนี้เป็นนวัตกรรมใหม่ที่สามารถชงกาแฟแบบ Drip Coffee ได้อย่างกับ Barista มือ อาชีพ ซึ่งหุ่นยนต์ตัวนี้เป็น Robot Barista ตัวแรกของประเทศไทย หุ่นยนต์นี้สามารถทำได้ตั้งแต่ขั้นตอนการเติมน้ำลงในเครื่องชงกาแฟและควบคุมอุณหภูมิของน้ำ การชั่งตวงเมล็ดกาแฟ การดริปกาแฟจนสำเร็จ การทำความสะอาดแก้วที่ใช้แล้วและการจัดการกับขยะ ทั้งหมดใช้เวลาเพียงแค่ 4.20 นาที เท่านั้นครับ ส่วนประกอบหลัก ๆ ของหุ่นยนต์ตัวนี้มี 3 ส่วนได้แก่ แขนกล ตัวโต๊ะที่ใช้งานคู่กับแขนกลและอุปกรณ์ภาชนะในการช่วยชง ส่วนการตั้งโปรแกรมสามารถทำได้โดยผ่านรีโมทคอนโทรลที่มาพร้อมกับตัวหุ่นยนต์ ซึ่งหุ่นยนต์ตัวนี้ยังไม่สามารถรับออเดอร์หรือรับชำระเงินได้ ต้องให้พนักงานเป็นผู้ประสานงานระหว่างหุ่นยนต์และลูกค้า ซึ่งอนาคตอาจจะมีการอัพเดตเพิ่มเติมในเวอร์ชั่นต่อไปก็ได้ครับSlow Bar Zone : โซนดริปกาแฟโดยบาริสต้าที่มีฝีมือและใจเย็น ในโซนนี้ลูกค้าสามารถเลือกเมล็ดของกาแฟและให้บาริสต้าเป็นผู้ชงเครื่องดื่มให้ได้เลยครับ นอกจากจะได้ดื่มด่ำไปกับรสชาติของกาแฟแล้ว ยังได้เห็นฝีไม้ลายมือในการดริปกาแฟของบาริสต้าอีกด้วย บรรยากาศที่นั่งภายในร้านชั้น 2เมนูอาหารและเครื่องดื่ม เมนูอาหารและเครื่องดื่มที่นี่มีหลากหลายมาก ๆ ครับ เรียกได้ว่ากว่าจะลองสั่งให้ครบทุกเมนูอาจจะต้องใช้เวลาหลายวันกันเลยทีเดียว แต่วันนี้ผมเลือกที่จะสั่งเมนูที่เป็น signature ของทางร้าน โดยเลือกเป็นเครื่องดื่มมา 2 เมนูและของหวานอีก 1 เมนู ส่วนวิธีการสั่งสามารถสั่งได้ 2 แบบ คือสั่งเองที่หน้าร้านหรือจะสั่งผ่าน Application TrueCoffee ก็ได้เช่นกันครับ วันนี้ผมจะแนะนำวิธีสั่งทั้ง 2 แบบให้เลยนะครับ ถ้าท่านใดไปที่ร้านก็สามารถเลือกสั่งได้ตามที่ตัวเองต้องการได้เลยครับ 1. สั่งเองที่หน้าร้านวิธีการสั่งแบบนี้ก็ง่าย ๆ ครับ เพียงเดินเข้าไปที่ Bar น้อง ๆ จะแนะนำเมนูอาหารและเครื่องดื่มตามความชอบของเราเลยครับ หลังจากเลือกเครื่องดื่มได้แล้วก็ชำระเงินตรงนั้นได้เลย วิธีการชำระเงินก็เพียงแค่ใช้บริการชำระเงินผ่าน True Money Wallet ก็สามารถชำระเงินได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องสัมผัสกับธนบัตรอีกด้วย ลดโอกาสในการรับเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปในตัวเลยครับ แถมยังรวดเร็วอีกด้วย ถ้าหากท่านยังไม่มี application True Money Wallet ก็สามารถ download ได้ง่าย ๆ ที่นี่เลยครับ >CLICK< หลังจากนั้นก็แจ้งกับน้องพนักงานได้เลยครับว่านั่งโต๊ะไหน หรือจะให้หุ่นยนต์พาไปที่โต๊ะที่ต้องการจะนั่งก็ได้ครับ 2. สั่งผ่าน Application TrueCoffeeวิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สะดวกไม่แพ้กัน เพียงแค่ไปนั่งรอที่โต๊ะ ซึ่งในแต่ละโต๊ะจะมี QR CODE ให้ทำการ Scan ระบบจะ Link เข้ากับ Application TrueCoffee ทันที (สามารถ download ล่วงหน้าได้ที่นี่ คลิก) เมื่อทำการติดตั้งและลงทะเบียนเรียบร้อย เพียงเท่านี้ก็สามารถสั่งเครื่องดื่มและเลือกสาขาที่จะรับสินค้าได้เลย สามารถชำระผ่าน Prompt Pay และ บัตรเครดิต ได้อีกด้วยครับ เมนูอาหารและเครื่องดื่ม ที่ผมลองสั่งในวันนี้ก็คือ Kiss Me Honey และ TrueCoffee Signature Coffee Jelly ส่วนของหวานก็จะเป็น TrueCoffee Creme Caramel Custard ครับแก้วแรกจะเป็นเมนูกาแฟที่มีชื่อว่า Kiss Me Honey กาแฟลาเต้ที่ผสมผสานระหว่างเอสเพรสโซ่ นมสด และน้ำผึ้งดอกลำใยแท้ topping ด้วยรังผึ้งดอกลำไยแท้ ๆ ทำให้ลาเต้เย็นแก้วนี้ มีความหอมหวานเพิ่มขึ้น พร้อมเสิร์ฟด้วยโฟมนมน้ำผึ้งสูตรพิเศษ สำหรับผมซึ่งเป็นคนไม่ค่อยชอบทานรสชาติหวานมาก แต่พอลองดื่มกาแฟแก้วนี้ขอบอกได้เลยครับว่าความหวานจากธรรมชาติของน้ำผึ้งแท้ ๆ มันเป็นอะไรที่ละมุนลิ้นมาก ๆ ไม่หวานกระด้างเหมือนน้ำตาลทั่วไป แต่รสหวานนี้มันเข้ากันได้ดีมาก ๆ กับลาเต้แก้วนี้ แถมรังผึ้งแท้ก็ไม่ได้ทำมาเพียงเพราะความสวยงาม แต่ยังรับประทานได้อีกด้วยครับถัดจากเมนูกาแฟมาต่อกันที่เมนูเครื่องดื่มแก้วที่สองกันบ้าง กับเมนูที่มีชื่อว่า TrueCoffee Signature Coffee Jelly สำหรับผมนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ลองเมนูนี้เลยครับ นี่คือเมนูสไตล์ขนมหวาน ในแก้วจะเป็นเจลลี่กาแฟโบราณ(สีน้ำตาลเข้ม) และเจลลี่โอเลี้ยง(สีดำ) เสิร์ฟมาในแก้วที่มีนมสด topping มาด้วยคาราเมลหอม ๆ ถ้าใครไม่เคยลองผมขอแนะนำเลยครับ กลิ่นหอมและรสชาติของเจลลี่กาแฟเข้ากันมาก ๆ กับเครื่องดื่มในแก้ว รสชาติเข้ม หวาน มันกำลังดี ตัวเจลลี่โอเลี้ยงที่ผมคิดว่าต้องขมมาก ๆ แน่ ๆ แต่เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วรสชาติกลับกลมกล่อม มีกลิ่นหอมของกาแฟโบราณ และที่สำคัญคือไม่ขมเหมือนโอเลี้ยงที่เคยดื่มเลย เมนูนี้ลงตัวเลยครับ มาต่อกันที่เมนูของหวานที่เป็น signature ของทางร้านอีกหนึ่งเมนูนั่นก็คือ TrueCoffee Creme Caramel Custard เมนูที่ผมได้ลองรับประทานครั้งแรกอีกเช่นเดียวกัน สำหรับเมนูนี้จะเป็นคัสตาร์ดกาแฟที่ราดมาด้วยซอสคาราเมลอย่างสวยงาม และ topping ด้วยครีมเนื้อเนียนนุ่ม เมื่อตักชิมคำแรกผมก็ได้กลิ่นหอมของกาแฟและคาราเมลที่เข้ากันได้อย่างลงตัวแล้ว ส่วนรสชาตินั้นก็หวานมันกลมกล่อม มีความขมเล็กน้อยของซอสคาราเมล และหวานละมุนลิ้นของเนื้อคัสตาร์ด ของหวานจานนี้ผมแนะนำให้คอกาแฟต้องลองสักครั้งครับ พลาดไม่ได้แน่นอนครับนอกจากเครื่องดื่มและอาหารแล้ว ที่นี่ก็จะมีน้ำดื่มไว้ให้บริการอีกด้วยนะครับ แก้วแต่ละใบทำจากกระดาษที่สามารถย่อยสลายได้เอง ช่วยลดโลกร้อนได้อีกด้วยครับ ผมจะเดินไปเทน้ำใส่แก้วเองแต่น้อง ๆ กลับรีบเดินมาเติมน้ำให้โดยที่ผมไม่ได้ขอความช่วยเหลือเลย นี่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในความน่ารักของน้อง ๆ พนักงานที่ดูแลลูกค้าอยู่ในทรูคอฟฟี่ครับ การเดินทาง TrueCoffee Flagship Store แห่งนี้ ทุกท่านสามารถเดินทางมาได้ตามแผนที่ด้านล่างนี้ได้เลยนะครับเบอร์โทรศัพท์ 0889109745 (ข้อมูล ณ วันที่ 7/11/2021)เปิดให้บริการทุกวันเวลา 7:00 - 22:00 น. นี่ก็เป็นเพียงรีวิวส่วนหนึ่งของ TrueCoffee Flagship Store at Center Point of Siam Square วันนี้ผมก็ขอแบ่งปันประสบการณ์ของร้านกาแฟยุคใหม่ ถ้าท่านใดสนใจจะลองดื่มกาแฟที่มีคุณภาพ การให้บริการด้วยรอยยิ้ม หรืออยากจะลองดื่มกาแฟจากฝีมือการชงกาแฟของหุ่นยนต์ และการเสิร์ฟกาแฟด้วยหุ่นยนต์ ก็สามารถแวะเวียนมาได้นะครับ สำหรับวันนี้ผมต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ บทความแนะนำจากผู้เขียน รู้หรือไม่? ทรูพอยท์ใช้อะไรได้บ้าง ? กินฟรี มีส่วนลด ขอบอกว่าคุ้มค่ามาก พลาดไม่ได้! รีวิวรับสิทธิ์โปรอร่อยประจำวัน สิทธิ์พิเศษเฉพาะลูกค้าทรูเท่านั้นรู้หรือไม่? "TrueID Call 📱" ใช้📞โทรฟรีหากัน ได้ทุกเครือข่ายเลยนะ😊หาของกินอร่อย ๆ ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !