หากพูดถึงเมนูขนมตาล หลายคนคงคุ้นเคยกับรูปแบบที่ใช้แป้งข้าวจ้าวทำ เป็นขนมสีเหลืองขึ้นฟูคล้ายขนมเบเกอร์รี่ต่าง ๆ แต่วันนี้เราจะนำเมนูขนมตาลเช่นกันแต่จะใช้ข้าวเหนียวในการทำซึ่งเราเรียกเมนูนี้ว่าขนมตาลเม็ด จะน่าทานแค่ไหนตามมาดูเลยค่ะ วัตถุดิบและส่วนผสมมีดังนี้ 1. ลูกตาลสุก 3 ผล 2. ผงฟู 1 ห่อ 3. น้ำตาล 6 ขีด 4. กะทิ 1 กล่อง 5. ข้าวสารข้าวเหนียว 2 กิโลกรัม 6. น้ำสะอาด 220 มิลลิลิตร ขั้นตอนและวิธีทำก็ง่ายแสนง่าย ดังนี้เลยค่ะ 1. นำลูกตาลสุกไปปลอกเปลือก ขั้นตอนนี้อาจจะทำยากนิดหน่อยแต่เพื่อความอร่อยต้องอดทนค่ะ 2. นำลูกตาลไปคั้นเอาเนื้อออกโดยการคั้นและนำไปหย่อนลงน้ำแป๊บเดียวแล้วนำมาคั้นต่อ ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนลูกตาลเปลี่ยนเป็นสีเหลืองซีด 3. นำเนื้อลูกตาลที่คั้นเสร็จไปกรองและนำไปใส่ในผ้าขางบางเพื่อให้น้ำเสด็จออกให้หมด เหลือเพียงแค่เนื้อลูกตาลล้วน ๆ ขั้นตอยนนี้ใช้เวลานานกว่า 10 ชั่วโมงค่ะ 4. ขูดเอาเนื้อลูกตาลเก็บไว้ในภาชนะมีฝาปิด ถ้ายังไม่ทำขนมวันนี้ก็สามารถนำไปแช่ตู้เย็นได้ 5. นำข้าวสารข้าวเหนียวไปแช่ในน้ำสะอาด 3 ชั่วโมง เมื่อครบ 3 ชั่วโมงแล้วนำไปเทน้ำออกและให้น้ำเสด็จออกหมด 6. นำข้าวไปผสมกับเนื้อลูกตาล น้ำตาล กะทิและผงฟู คนให้เข้ากัน 7. นำไปห่อโดยใช้ใบตองให้พอดีคำ 8. นำไปนึ่งในลังถึง เพื่อให้สุกไวขึ้น ควรใช้ไฟแรงได้เลย เพียงเท่านี้ก็ได้ลิ้มลองรสชาติความอร่อยของขนมตาลเม็ดแล้วค่ะ วันนี้เราก็ได้นำสูตรลับฉบับคุณยายดีมาฝากทุกคนกันค่ะเคล็ดลับดังนี้เลยค่ะ 1. ต้องให้เนื้อตาลที่คั้นเสร็จเสด็จน้ำเพื่อลดความขมของลูกตาล 2. ในตอนผสมส่วนผสมทุกอย่างต้องใส่น้ำสะอาดเพื่อให้ตอนนำไปนึ่งขนมตาลเม็ดจะได้สุกทั่วถึงและเป็นวิธีช่วยให้สุกไวขึ้น 3. หากใครมีเนื้อมะพร้าวก็สามารถขูดเป็นฝอย ๆ ใส่ได้ค่ะ แต่เราหาไม่ได้เลยใช้เป็นหัวกะทิแทน สำหรับใครที่เบื่อขนมตาลแบบเดิม ๆ เราก็อยากแนะนำเมนูขนมตาลเม็ด สูตรลับฉบับยายดี ให้ลองทำทานดูได้ค่ะ รับรองความอร่อยจึงได้นำมาบอกต่อค่ะ ความหอมของเนื้อตาลสุก ประกอบกับความนุ่มของเมล็ดข้าวเหนียวนึ่งสุก ให้ทั้งความอร่อยและอิ่มท้องส่วนตัวทานแทนอาหารว่างหรือบางมื้อทานแทนมื้อหลักก็ช่วยให้อิ่มท้องเลยทีเดียวค่ะ และหากใครที่ไม่เคยทานลองนำสูตรนี้ไปทำดูนะคะ เพราะเราได้แนะเคล็ดลับความอร่อยไว้หมดแล้วค่ะ ลองทำดูนะคะหากใครไม่มีเนื้อตาลสุกก็อาจใช้ผงตาลสำเร็จรูปตามร้านค้าได้เช่นกันค่ะ ช่วงนี้ต้องเข้าครัวทำขนมทานเองเพื่อลดการออกนอกบ้านให้ได้มากที่สุดด้วยค่ะ ลองทำดูนะคะ ภาพโดยผู้เขียน