บ่อยครั้ง ที่เราได้ยินคำว่า "ขาดทุน คือ กำไร" แต่ไม่กี่ครั้งหรอก ที่เราจะได้เห็นกับตา กำไรของความขาดทุนมันมีความหมายมากเพียงใด ตลาดท่านา อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เป็นตลาดเก่าแก่ที่มีบรรยากาศบอกเล่าเรื่องราวของสงครามโลกครั้งที่สอง ประมาณว่า ใครเคยดูหนังคู่กรรม พระเอกโกโบริ วิ่งหลบลูกระเบิด ผมว่าอารมณ์เรื่องราวของหนังยังมีมนต์ขลังอยู่ในตลาดแห่งนี้ซ่อนอยู่เงียบ ๆ ปัจจุบัน ตลาดท่านา ถือว่า เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยแบบย้อนยุค และมีของดีมาจัดวางให้ให้ผู้ที่มาท่องเที่ยวได้เสพรสกันอยู่หลายร้านเลยทีเดียว แต่ก่อนจะเดินเข้าไปสู่ภายในตลาดที่คลุมหลังคาไว้ ผมสะดุดที่ป้ายเจ้าตูมตามนี่เสียจังเลย เดินไปทางขวาก็ตูมตาม ทางซ้ายตูมตาม นี่มั่นเสียงระเบิดแห่งสงครามโลกกำลังจะทำหน้าที่อีกครั้งหนึ่งหรือเปล่านะ ผมเดินเข้าไปเพื่อที่จะหาซื้อของกินในตลาด แต่ด้วยมองเห็นเป็ดที่แขวนอยู่ในตู้กระจกส่งยิ้มมาแต่ไกล ผมจึงตัดสินใจชี้นิ้วไปที่ตู้กระจกนั้น บอกกับแม่ค่าว่า เอาข้าวหน้าเป็ดกล่องหนึ่งกลับบ้านครับ ระหว่างรอข้าวหน้าเป็ดจากแม่ค้าที่ยืนซ่อนตัวอยู่ภายในร้านโดยเว้นระยะห่างระหว่างเราตามมาตรการ Social Distancing พร้อมกับเสียงตอบรับมาว่า รอสักครู่ค่ะ และช่วงสักครู่ที่รอนั่นล่ะ ผมพาลูกชายเดินดูกาตูนหลอกเด็กที่ติดไว้ข้างฝาเหมือนสถาปัตยกรรมซึ่งมันน่าตื่นเต้นชะมัดเลยครับ ชี้โน้นที นั่นที เพื่อให้เด็กไม่งอแง แต่ทว่า ป้ายในร้านที่ทำให้ผมสะดุดกึ๊ก ไม่ใช่ระเบิดจะหล่นตูมตามหรอกนะครับ ผมสัมผัสได้ถึงข้าวหน้าเป็ดของผมที่คิดว่า มันต้องอร่อยเกินหน้าเป็ดธรรมดา และมากกว่าหน้าเป็ดสากลด้วยซ้ำไป ผมขยี้ตา แล้วร้อง เห้ย ร้านนี้กินฟรีได้ด้วยหรือนี่ แต่ฟรีสำหรับคนไม่มีเงิน คนพิการ คนแก่ คนบลาบลาบลา กินฟรีหมดครับ วงเล็บเสียด้วยว่า "แม่ค้าใจดี" สิ่งที่ผมพบ มันคือความจริงครับ ผมถามแม่ค้าว่า ไอ้กินฟรีนี่ ให้กินฟรีจริง ๆ หรอ พร้อมทำสายตาอ้อนวอน แม่ค้าบอกว่า ยินดีเลยจ๊ะ ผมก็ถามไปอย่างงั้นล่ะครับ แบบว่าได้ก็ดี เย้ย แทบไม่ต้องอธิบายอะะไรทั้งนั้นครับ สำหรับคำว่า กำไรคือ ความขาดทุน และความขาดทุนคือกำไร ผมเห็นเรื่องราวของร้านผ่านการสังเกตข่าวกระดาษหนังสือพิมพ์ที่นำมาใส่กรอบ รู้สึกว่า รายการเส้นทางเศรษฐีนี่ล่ะ มาทำสกู๊ปและคงจะฟันธงว่า ร้านนี้เจ๋งจริง หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ หากผมจะเฉยเมย ไม่สำทับของดีที่มีในใจคนไทยและเเบ่งปัน ผมคงจะใจดำมาก ๆ เลยครับ นี่ถ้าไม่ติดโควิดผมอยากจะเข้าไปโอบไหล่พี่คนขายขอถ่ายเซลฟี่ ตามแต่กิริยาจะดี๊ด๊าได้ แต่วันนี้ขอห่างกันไว้ แต่ผมเชื่อว่าใจ ของผู้ให้กับผู้รับผ่านคำว่าฟรี มันมีความหมายมากมายเหลือเกิน ผมกลับมาบ้านด้วยใจเบิกบานมิใช่เพราะได้ทานอาหารฟรีนะครับ ผมจ่ายเงินนะ แต่กลับมาด้วยความอิ่มว่า เป็นส่วนหนึ่ง่ของผู้ที่จ่ายเงินให้กับร้านใจดีร้านนี้ และข้าวหน้าเป็ดที่ผมลงทุนซื้อมา มันคือ อานิสงส์ของท้องที่อิ่มยังไม่พอ อาจจะเป็นส่วนหนึ่งในความร่วมยินดีในวิถีใจดีของร้านตูมตามก็เป็นไปได้แล้วแต่เราจะมองนะครับ ขอชื่นชมจากหัวใจจริง ๆ และร้านแบบนี้คงมิใช่รายเดียวรายแรกของไทยครับ การเห็นเพื่อนมนุษย์ตกทุกข์ด้วยยาก หากจะบอกว่า นักรบต้องเดินด้วยท้อง ในท่ามกลางสมรภูมิใด ๆ ก็ตามแต่เป็นสิ่งจำเป็น สำหรับผู้ไม่มีอันจะกินแล้ว นี่คือ โอกาสที่จะให้ชีวิตเดินไปต่อบนเส้นทางของการเเบ่งปันเอื้อเฟื้อเช่นนี่ ช่างงดงามนัก ขอขอบคุณร้านตูมตามครับ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เล่าเรื่องเรื่อย ๆ โดยพ่อบักอินดี้ครับ ขอบคุณ ๆ อย่าลืมไปกันนะตลาดท่านา ร้านตูมตามใจดี