ช่วงนี้เป็นช่วงการระบาดของโรค โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดนี้เป็นอย่างมาก สถานที่ต่างๆ ถูกสั่งปิด เช่น ชายหาด ห้างสรรพสินค้า โรงแรม สวนสาธารณะ และอื่นๆ นอกจากนี้เขตเทศบาลแต่ละเขตกำลังทยอยปิดทางเข้า-ออก ห้ามไม่ให้ประชาชนเข้า-ออก นอกเขตเทศบาลของพื้นที่นั้นๆ เพื่อเป็นการจำกัดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค โดยพื้นที่แรกที่เริ่มปิดทางเข้า-ออก นั่นก็คือเขตเทศบาลตำบลป่าตอง เนื่องจากป่าตองเป็นจุดศูนย์กลางของการแพร่ระบาดในจังหวัดภูเก็ต เพราะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมาก ผู้เขียนเองพักอยู่ในตำบลกะทู้ และไปทำงานในเขตเทศบาลตำบลป่าตอง ตอนนี้ว่างงานเนื่องจากโรงแรมที่ผู้เขียนทำงานอยู่ถูกสั่งปิดกิจการชั่วคราว เช่นเดียวกันกับทุกโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต และในตอนนี้เทศบาลตำบลกะทู้ก็มีคำสั่งห้ามเดินทางเข้า-ออก นอกพื้นที่แล้ว ส่วน พรก. ฉุกเฉินห้ามออกจากบ้าน มีกำหนดเวลา 22:00 น. ถึง 04:00 น. ทั่วประเทศ ดังนั้นแล้ว ผู้เขียนไม่รอช้า ใส่หน้ากากอนามัย พกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ รีบชวนสามีไปซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ฯลฯ มาเตรียมไว้ เพราะไม่อยากออกจากบ้านไปซื้อบ่อยๆ เลี่ยงการไปเจอผู้คนเยอะๆ สถานที่ ที่แออัด ช่วงนี้ทุกคนต่างต้องดูแลตัวเอง เพื่อให้รอดพ้นจากโรคร้ายนี้ไปได้ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” กันนะคะ เพื่อตัวของทุกคนเองด้วยค่ะ มาเข้าเรื่องของเรากันดีกว่าค่ะ พูดถึงเรื่อง มาม่าเผ็ดเกาหลี ซองสีดำที่มีขายตามร้านสะดวกซื้อ หรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป ไหนๆ ก็เตรียมมาม่าไว้เยอะ หนึ่งในนั้นก็คือ มาม่าเผ็ดเกาหลี ที่หลายๆ คนมารีวิวไว้เยอะมาก รออะไร มาทดสอบดูดีกว่าว่าเผ็ดสมคำร่ำลือจริงหรือไม่ ผู้เขียนจะเอาอยู่ไหม ได้ยินมาว่าซองสีดำนั้นเผ็ดมาก แต่ถ้าอยากเผ็ดคูณสองให้กินซองสีแดง หรือใครไม่สะใจจัดซองสีชมพูไปเลยเผ็ดคูณสี่ “โอ้แม่เจ้า” ด้วยความเป็นคนชอบกินอาหารรสจัดอยู่แล้ว ต้มน้ำสิคะ จัดเป็นมื้อเย็นไปเลย ขอแนะนำว่าให้นำบะหมี่ไปต้มในน้ำเดือดจนกว่าเส้นจะนิ่มนะคะ เพราะ ถ้าแค่เติมน้ำร้อนลวกเส้น เส้นจะไม่ค่อยสุกค่ะ บะหมี่เส้นค่อนข้างใหญ่และเหนียว เมื่อต้มเส้นได้ที่แล้วก็ตักใส่ชาม ฉีกซองเครื่องปรุงเทลงไป เครื่องปรุงจะมี 2 ซอง ซองนึงลักษณะเป็นน้ำ ไม่เป็นผงแบบที่เราคุ้นเคยกัน อีกซองนึงจะเป็นสาหร่ายชิ้นเล็กๆกับงาขาว “อาหารเกาหลีมักจะมีงาขาวเป็นส่วนประกอบเนอะ” คนทุกอย่างให้เข้ากัน ลืมไปค่ะ ในขณะที่ต้มเส้นบะหมี่อยู่นั้น ผู้เขียนใส่ไส้กรอกลงไปต้มด้วย (เพิ่มอรรถรสนิดนึง) ใครมีผักสามารถเติมได้ค่ะ จะได้มีสารอาหารเพิ่มเติม และนี่คือ มาม่าเผ็ดเกาหลี ฝีมือผู้เขียนเองค่ะ ขออภัยที่ชามเลอะไปหน่อยนะคะ ลุย! คำแรกที่กินเข้าไป ก็รู้สึกถึงความเผ็ดเลยค่ะ แต่...อร่อยมาก ถือว่าชอบเลยล่ะค่ะ คำแรกยังได้อยู่ คำสอง สาม ยังได้อยู่ คำที่สี่ ห้า เริ่มเผ็ดขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ผู้เขียนเริ่มไม่ไหวแล้วค่ะ รีบวิ่งหาน้ำในทันที นึกได้ว่ามีน้ำแดงกลิ่นสละ น้ำแข็ง และโซดา ในตู้เย็น เลยเอามาชงอย่างไว ใส่แก้วคู่ใจใบน่ารักๆ กินคู่กับมาม่าเผ็ดเกาหลี ความซ่าของโซดาอาจทำให้รู้สึกเผ็ดมากขึ้น แต่ผู้เขียนว่ามันอร่อยและเข้ากันดีมากๆ ถือว่าชอบค่ะ อร่อยเลยทีเดียว ในความรู้สึกของผู้เขียน สำหรับ มาม่าเผ็ดเกาหลี ในเรื่องของความเผ็ด ผู้เขียนคิดว่า เผ็ดแบบแสบๆปากมากกว่า ไม่ได้เผ็ดร้อนแบบอาหารไทยนะคะ สำหรับเด็กใต้อย่างผู้เขียนแล้ว ถือว่า เผ็ดเอาอยู่ ค่ะ ขอแนะนำว่าคนที่กินเผ็ดได้น้อย หรือ กินเผ็ดไม่ได้ น่าจะไม่ไหวกับเจ้ามาม่าเผ็ดเกาหลีตัวนี้นะคะ เพื่อสุขภาพของตัวคุณเอง ไว้คราวหน้าจะไม่พลาดซองสีแดงและซองสีชมพูแน่นอนค่ะ เคล็ดลับ : วิธีแก้เผ็ดที่ผู้เขียนทำบ่อยและได้ผล คือ อมเกลือไว้ในปากประมาณ 1 ช้อนชา อมไว้จนละลายสักพักแล้วบ้วนทิ้ง หรือ อมน้ำนมไว้ในปากสักพักแล้วบ้วนทิ้ง ทั้งสองวิธีนี้จะช่วยให้เราหายเผ็ดเร็วขึ้นกว่าเดิมค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความนี้ค่ะ ฝากติดตามบทความของ ขี้พร้าขาหมู ในคราวต่อไปด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ