เรื่องมันมีอยู่ว่า... ผู้เขียนและเพื่อน ๆ กำลังตัดสินใจเลือกร้านอาหารดี ๆ สำหรับการมาเยือนกรุงเก่า ย่านบางรัก จนไปสะดุดตาเข้ากับป้ายเล็ก ๆ หน้าซอยเจริญกรุง 47/1 บอกว่ามีร้านอาหารอินเดียหลบอยู่ในตรอกนี้ จึงได้พบกับ Himali Cha Cha & Son (หิมาลัย ชาช่า แอนด์ซัน) หากไม่สังเกตดี ๆ คนสัญจรทั่วไปอาจไม่รู้ว่ามีร้านอาหารอินเดียดั้งเดิมแอบซ่อนอยู่ในซอยเจริญกรุง 47/1 ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับที่ทำการไปรษณีย์กลางบางรัก เดินเข้าไปในซอยอีกประมาณ 300 เมตรก็จะพบกับประตูหน้าร้านที่มีเอกลักษณ์สไตล์ดินแดนเครื่องเทศ ขออนุญาตแนบแผนที่ร้านประกอบ (ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.himalichacha.com) Himali Cha Cha & Son ร้านอาหารอินเดียต้นตำรับโดย Mr. Cha Cha ชายชาวอินเดียผู้มากประสบการณ์ในการทำครัวมากว่า 40 ปี อาหารสูตรพิเศษของเขาเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชื่นชอบอาหารอินเดียและเครื่องเทศรสแรง จนกระทั่งปี 1977 Himali Cha Cha ได้เสิร์ฟอาหารอินเดียดั้งเดิมสูตรเด็ดของเขาที่ประเทศไทย และยังคงรักษาคุณภาพของมาตรฐานอาหารอินเดียดั้งเดิมโดย Kovit Sarcar รุ่นลูก ภายใต้ชื่อ Himali Cha Cha & Son นั่นเอง บรรยากาศภายในร้านคุกรุ่นไปด้วยกลิ่นเครื่องเทศสไตล์อินเดีย เคล้ากับกลิ่นเครื่องเรือนไม้สักและเก้าอี้หวาย แสงไฟสลัว เสียงดนตรีบรรเลงฟังสบาย ไม่หวือหวาฉูดฉาดจนเสียบรรยากาศ เครื่องปรับอากาศอุณหภูมิพอเหมาะ ไม่ร้อนและไม่เย็นจนหนาวเกินไป โต๊ะอาหารถูกจัดเตรียมพร้อมให้บริการ และที่สำคัญคือความสะอาด 10/10 อาหารที่นี่ราคาเหมาะสมตามคุณภาพและวัตถุดิบ ถือเป็นเรททั่วไปของอาหารอินเดียในห้องอาหารติดแอร์แบบนี้ พนักงานแนะนำการสั่งอาหารและรับประทานแบบคนอินเดียคือ สั่งนานทานคู่กับแกง (นาน คือ แป้งลักษณะคล้ายโรตี ชาวอินเดียทานคู่กับแกงเป็นอาหารหลัก) โดยแกงมีหลายชนิดให้เลือก และหลายราคาตามวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไก่ เนื้อแพะ อาหารทะเล หรือเลือกทานแบบมังสวิรัตไม่ใส่เนื้อสัตว์เลยก็ได้ ผู้เขียนและเพื่อน ๆ เลือกสั่งแป้งนานสูตรดั้งเดิม ทานคู่กับแกงสองชนิด คือ Mutton Masala และ Chicken Korma หลังจากสั่งอาหารผ่านไปห้านาที พนักงานก็เสิร์ฟออเดิร์ฟให้ทานเล่นไปพลาง เป็น Indian Appetizers ประกอบด้วย Papadum คือข้าวเกรียบแผ่นบางปรุงรสด้วยเครื่องเทศ ทานคู่กับ Dippings เครื่องเคียงสามอย่างคือ ซอสสะระแหน่ ซอสมะขาม และหอมแดงดอง กลิ่นเครื่องเทศและรูปลักษณ์ของเครื่องเคียงอาจไม่ถูกใจคนที่ไม่ชอบทานอาหารกลิ่นแรง แต่พวกเราชื่นชอบกันมาก บวกกับความประทับใจส่วนตัวที่ไม่เคยรับประทานอาหารอินเดียแบบนี้มาก่อน เพิ่งจะรู้ว่ามีอาหารเรียกน้ำย่อยเสิร์ฟให้ต่างหากด้วย ตัวข้าวเกรียบบางกรอบมีรสชาติของเครื่องเทศแทรกอยู่ภายในแป้งอยู่แล้ว แม้ไม่จิ้มเครื่องเคียงก็มีรสชาติ อร่อยเหมือนทานขนมขบเคี้ยวเลย แต่ถ้าทานคู่กันก็เพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้นไปอีก เท่านี้กระเพาะของพวกเราก็พร้อมทานอาหารจานหลักแล้ว แกงสีเหลืองคล้ายแกงกะหรี่นี้คือ Chicken Korma เป็นแกงไก่ในเครื่องเทศกับกะทิข้น จานนี้ทานง่ายมาก มัน ๆ หอมเครื่องเทศไม่ฉุนเลย แถมเนื้อไก่นิ่ม ร่อนออกจากกระดูกเหมือนผ่านการเคี่ยวมาจนได้ที่ จานนี้สีสันเข้มข้นสไตล์อินเดียมากกว่าจานแรก เรียกว่า Mutton Masala แกงเนื้อแพะในเครื่องเทศมาซาลา ผู้เขียนและเพื่อน ๆไม่เคยทานเนื้อแพะกันมาก่อนเลย แต่รู้สึกว่าเนื้อในจานนี้ไม่มีกลิ่นคาว ทานง่าย ไม่เหนียว เครื่องเทศรสแรงทานเข้ากันกับแป้งนานได้ดีเลยทีเดียว นอกจากนี้พวกเราได้สั่งแป้งนานกระเทียมเพิ่ม จานนี้หอมกรุ่นจากเตายิ่งกว่าฟาร์มเฮ้าส์อีกจ้า (ขอบคุณภาพจาก “นัทพอแล่ว” ) อาหารอินเดียก็ต้องทานคู่กับชาอินเดีย แก้วนี้คือ Masala tea ชาอินเดียใส่นมหมักแบบอินเดีย ชื่อเดียวกับแกง Masala เพราะมีกรรมวิธีคล้ายกันนั่นคือ ใส่นมหมักและเครื่องเทศ รสชาติชาร้อนแก้วนี้นัวกว่าที่คิด เหมือนทานชานมแต่เพิ่มคำว่า "สไตล์อินเดีย" เข้าไป (ขอบคุณภาพจาก “นัทพอแล่ว”) เมื่อทานจนอิ่ม พนักงานนำน้ำเย็นลอยลูกมะกรูดฝานในขันขนาดเล็กให้พวกเราล้างมือ สามารถล้างคราบมัน รวมถึงกลิ่นเครื่องเทศได้สะอาดหมดจดพร้อมลุยเที่ยวต่อได้! สำหรับค่าเสียหายทั้งหมด 765 บาทต่อ 3 คน หากหารเฉลี่ยไม่รวมค่าน้ำ ตกคนละประมาณ 200 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่อิ่มและยอมรับได้ คุ้มค่าสำหรับการได้ทานอาหารอินเดียแท้ ในบรรยากาศที่ไม่ได้หาได้ทั่วไปในประเทศไทย ร้านอาหารอินเดียต้นตำรับแท้ อย่าง Himali Cha Cha & Son มีทั้งหมด 3 สาขา โดยที่บางรักเป็นสาขาแรก เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.00-15.30 และ 18.00-22.30 สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง http://www.himalichacha.com หรือโทรศัพท์ 02235-1569 (สาขาบางรัก) เรื่องและภาพ: Eatmewithbread